วันจันทร์ที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2554

15: แสงธรรมพระธุดงค์ นิมิตแห่งแสง

IT Man: 28-08-2011, 08:35 AM #4200

เช้านี้ตื่นราวๆตี 4:20 เริ่มทำวัตร 04:30-05:20 ... พักผ่อนอริยาบท

เข้าสมาธิตี 5:24-05:55 : ระหว่างการนั่ง ได้นิมิตเห็นตัวเองในอดีตเป็นพระธุดงค์ นั่งสมาธิในเชิงเขาแห่งหนึ่ง ใกล้วัดเก่าๆอยู่ระหว่างชายแดนไทย-พม่า จำได้เลยว่า ณ ที่แห่งนี้ ตัวเราในภพปัจจุบัน(เมื่อปีที่แล้ว) ก็เคยไปนั่งสมาธิอยู่บ่อยๆ...ทำให้เกิดอาการปีติ น้ำตาไหล ร้องไห้ฟูมฟายกายสั่นไปได้สักพัก

จากนั้นสัก 5 นาที...กายก็ตั้งตรง นิ่งสงบ ปรากฏเหมือนมีลมเข้า-ออก ณ กลางกระหม่อม พลอยให้นึกถึงคุณพ่อ ก่อนที่ท่านจะสิ้นใจ ลมก็ออกมาทางนี้เหมือนกัน...นึกย้อนมาหาตัวเองตอนเป็นพระธุดงค์ในอดีตนั่นอีกครั้ง คราวนี้ไม่เกิดอาการปีติ แต่กลับเกิดอาการนิ่งเฉยทั้งกายและใจ...ไร้ซึ่งอารมณ์

ก่อนออกจากสมาธิ ก็ต้องขึ้นไปกราบพ่อแม่ครูอาจารย์สักหน่อย ครานี้ไปยากแฮะ เพราะต้องฝ่าด่านก้อนเมฆ เขาสูง ทะเลสาบ นาน...ประมาณ 3 นาทีจึงขึ้นไปกราบท่านได้ ท่านยังนั่งยิ้ม...รอดูพวกเราอยู่เช่นเดิมครับ

พุทโธ เม นาโถ , ธัมโม เม นาโถ , สังโฆ เม นาโถ
กราบ กราบ กราบ

ผมเริ่มเข้าใจบางอย่างในพระธุดงค์อีกอย่างแล้วว่า...ทำไมท่านต้องไปธุดงค์ในป่าลึก ไกลผู้คน ก็เนื่องหากเกิดอาการปีติเนืองๆเช่นผมนี้
ถ้าชาวบ้านมาเห็น คงตกใจนึกว่าผีบ้า ทำไมอยู่ๆก็ร้องไห้เอาๆ โอนี่หล่ะหนอ ผู้ยังไม่รู้ ยังไม่เห็นอะไรข้างใน เห็นพระท่านร้องไห้ กลับคิดว่าบ้าเสียนี่

โมทนาสาธุบุญที่ท่านทั้งหลายทำทุกประการ
จงเจริญในธรรม มีกำลังใจในการทำ...ตลอดทั่วทุกคนเทอญฯ
ดร.นนต์: 28-08-2011, 10:18 AM #4205  
อนุโมทนากับท่านสมบัติ ผู้เข้าถึงแล้ว ไม่ว่าระดับใดๆ ย่อมเข้าใจว่า มันก็เป็นเช่นนั่นแล กาลามสูตรดั่งที่พระพุทธองค์ตรัสไว้นั้น เที่ยงแท้แน่นอน ผู้ใดถึง ผู้นั้นเห็นเองรู้เอง

อาการปีติเป็นของธรรมดาสำหรับมนุษย์ ทุกคนก็เกิดอาการปีติได้ แต่อาการปีติของนักปฏิบัตินั้นต่างจากปุถุชนและสามัญชน อาการปีติในนิมิตของนักปฏิบัตินั้น จึงเหนือความปีติของสามัญชน (สามัญชนผู้ยินดีในความสุขที่ได้รับในสิ่งตนเองปรารถนา) แต่ความปีติที่เกิดจากนิมิตนั้น เป็นอาการปีติในธรรมที่ค้นเจอด้วยญาณสมาบัติ ความปีติที่สูงขึ้นไปสู่ความเป็นอริยบุคคลนั้น จะเกิดจากการพิจารณากายในกาย เวทนาในเวทนา จิตในจิต และธรรมในธรรม จนเกิดปัญญาญาณและเข้าใจชัดแจ้งในกฎอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เมื่อแจ่มแจ้งแล้ว ความปีติยินดีจะโน้มไปสู่การระลึกถึงพระคุณของพระพุทธเจ้า พ่อแม่ครูอาจารย์ ย่อมหลั่งไหลออกมาซ้ำแล้วซ้ำเล่า สุดจะพรรณา ความปีติเช่นนี้ เกิดเอง เป็นเอง ไม่ได้เติมแต่งแม้แต่น้อย กลั้นเอาไว้ก็ไม่อยู่ เมื่อปีติด้วยเวลาอันควร เราก็สามารถตัดอาการปีตินั้นลงได้ในชั่วเวลาแค่แพล็บเดียว เข้าไปนอนนิ่งในอุเบกขา ไม่ชื่นชม ไม่ยินดีอีกต่อไป เพราะรู้แล้ว จึงไม่ยึดติด นั่นก็คือ เข้าสู่สภาวะการละวางได้นั่นเอง.....

ท่านสมบัติกำลังเข้าสู่กระแสมรรค... อุเบกขาที่สามารถตัดความปีติได้นั้น ดีแล้ว ถูกต้องแล้ว...ขออนุโมทนาสาธุด้วยนะครับ

พุทธประเพณีของผู้ปรารถนา...ติดตามองค์พุทธะ ย่อมลาไม่ได้เช่นเดียวกับองค์นิยตโพธิสัตว์เจ้า... แต่การบรรลุธรรมย่อมเป็นไปได้โดยง่าย แต่ไม่สามารถตัดเข้าพระนิพพานได้เช่นเดียวกันกับองค์นิยตโพธิสัตว์เจ้า จึงต้องรอพระองค์ท่านได้ตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าก่อน จึงจะสามารถเข้าสู่อรหันตผลได้... และผู้ติดตามองค์พุทธะจะเสด็จลงมาพร้อมกับองค์นิยตโพธิสัตว์เจ้าทุกครั้ง แต่ไม่บ่อยครั้งนัก เนื่องจากบารมีนั้นเต็มแล้ว(ปรมัตถบารมี) เพียงแต่รอคิวตามองค์พุทธะนั่นเอง ความกระจ่างของแต่ละบุคคลจะค่อยๆปรากฏขึ้น... เรื่องเหนือโลกมันเกินวิสัยของมนุษย์ทั่วไปครับ...

แล้วจะเข้าใจว่า ทำไมบุรุษผู้หนึ่งถึงต้องทิ้งพระนิพพานมาสามครั้งแล้ว....

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์

ดร.นนต์: 29-08-2011, 11:12 AM  #4258

เมื่อคืนหลังจากผมได้พูดคุยกับท่านแล้ว ผมได้นั่งภาวนาสมาธิและแผ่เมตตาตรงจุดที่ท่านถ่ายรูปมา ปรากฏมีกระแสและความปีติเกิดขึ้น ต่อมาได้ปรากฏภาพนิมิตในขณะนอนหลับ (นิมิตของผมจะเกิดในขณะนอนเสมอ) ว่ากำลังเดินดูวัดหนึ่งทางภาคเหนือ เห็นวิหารที่สวยงามทรงสูงลวดลายเป็นแบบทางเหนือ แต่รูปทรงของวิหารสูงเป็นสี่เหลี่ยมชลูด ไม่มีในยุคนี้ เดินไปอีกนิด เห็นภาพต้นไม้ที่ไม่มีจริงในโลกมนุษย์ เดินไปอีกนิดพบพระภิกษุสองสามรูปใกล้กุฏิหรือศาลายกพิ้นสูงข้างล่างโล่งเหมือนวัดตามชนบท แต่บริเวณวัดกว้าง สะอาด เงียบสงบ มีพระรูปหนึ่งบอกให้ผมเก็บกวาดบริเวณวัด แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีความสกปกแต่อย่างใด สักครู่ท่านบอกให้มุดลงไปใต้พื้นดิน ผมรู้สึกว่าจะเป็นรูหรือถ้ำพญานาค จึงยังลังเล ท่านจึงพูดว่า เป็นถ้ำพญานาค สุดท้ายผมก็ยังไม่กล้าเข้าไป จึงถอนจากนิมิต และรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาก่อนจะมาเดินจรงกรมตอนตีสี่ครึ่งครับ

ปรกตินักปฏิบัติภาวนาสมาธิจะไม่ฝัน ถ้าฝันก็คือนิมิต และจะรู้เองว่า สิ่งใดคือฝันสิ่งใดคือนิมิต (นิมิตจะแยกออกจากความฝัน) และบางนิมิตจะแม่นมากๆครับ


จริตในการภาวนาสมาธิของผม จะไม่เกิดภาพนิมิตในขณะนั่งสมาธิ แต่จะไปปรากฏในขณะนอนหลับ แต่บางครั้งจะเกิดผุดรู้บางสิ่งบางอย่างขึ้นมาบอกเหตุการณ์ล่วงหน้าได้แม่นยำ แต่ส่วนใหญ่ขณะนั่งสมาธิหรือเดินจงกรม จะเกิดปัญญาญาณผุดรู้ขึ้นมามากกว่าภาพนิมิต เพราะผมมีนิสสัยชอบเจริญวิปัสสนาในทุกขณะ แม้จะขับรถอยู่ก็ตาม ขอให้สังเกตจริตของตัวเองนะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์

เรื่องที่เกี่ยวข้องนิมิตของข้าพเจ้า:
01: หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)
10: ฌานนิมิตถึงพระอริยะเจ้า
15: แสงธรรมพระธุดงค์ นิมิตแห่งแสง
16: แสงธรรมพระธุดงค์ ตามหานิมิต 
17: แสงธรรมพระธุดงค์ พบแสงนิมิต

58: นิมิตฝันว่า ได้ดื่มน้ำทิพย์
144: นิมิตฝัน เกี่ยวกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
155: มงคลนิมิต 2 ประการ
160: นิมิตฝันว่า ได้ฟังธรรมจาก...
165: นิมิตฝัน ถึงองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาสอนธรรม
193: นิมิตฝัน เกี่ยวกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
275: นิมิตฝันว่า ได้ถวายอุปัฏฐากหลวงปู่ชา สุภทฺโท
นิมิตฝันว่า ได้พบพญานาคสีน้ำเงินจำศีลอยู่ในถ้ำ
นิมิตฝันว่า ได้พบงูสีขาวเผือก
นิมิตฝันว่า ได้เดินธุดงค์ติดตามองค์ครูบาอาจารย์ไปทางเหนือ
นิมิตฝันว่า ได้ถวายภัตตาหารร่วมกับญาติธรรมจำนวนมาก
นิมิตฝันว่า ได้ครอบครองเจ้าแห่งเหล็กไหล
นิมิตฝันว่า ทำบุญกับพระภิกษุสายหลวงพ่อวัดท่าซุง
นิมิตฝันว่า ได้ติดตามองค์ครูบาอาจารย์บิณฑบาตทางภาคอิสาน
นิมิตฝันว่า ได้เข้ากราบหลวงปู่หา (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
นิมิตฝัน วันออกพรรษา
นิมิตฝันว่า ได้ร่วมขุดหาพระพิมพ์กับองค์ครูบาอาจารย์,หลวงปู่...
นิมิตฝันว่า ได้ติดตามองค์ครูบาอาจารย์ธุดงค์จากบาดาลสู่แดนลับแล (บังบด)