วันพฤหัสบดีที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2557

นิมิตฝันว่า ได้ครอบครองเจ้าแห่งเหล็กไหล

สมเด็จหลวงพ่อทวด เมตตาเสด็จมาโปรดเมื่อ 20 ตุลาคม 2557

เมื่อคืนราวตี 3-4 ได้ฝันว่า ได้ออกเดินทางไปในป่าใหญ่กับเพื่อน 3 คน และผู้ติดตามอีก 5-6 คน เพื่อตามหาเหล็กไหล พอไปถึงกลางป่าก็ได้พบเมืองร้างเมืองหนึ่ง จะสังเกตุเห็นว่าสิ่งก่อสร้างดูอึมครึม สร้างด้วยไม้ทาสีดำ ประดับลวดลายด้วยโลหะสีเงินออกดำ

พอไปถึงด้านหน้าก็จะเห็นเป็นเหมือนห้องโถงยกพื้นสูง 1-1.5 เมตร ด้านซ้ายเป็นบันได 5 ขั้น พวกข้าพเจ้าเห็นแจกันประดับลาดลายด้วยเงินสวยงาม บรรจุเหล็กไหลวางไว้มุมซ้าย เพื่อนที่อาวุโสสุดก็เดินขึ้นไปหยิบเอาแจกัน เพื่อนอาวุโสรองก็ตามขึ้นไป ส่วนข้าพเจ้าอยู่ข้างล่าง เพราะคิดว่าควรให้เพื่อนอาวุโสสุดครอบครอง (ในที่นี้จะมีจุดหักเหเพราะกรรมเก่าที่เคยสร้างมาร่วมกัน แม้เป็นเพื่อนรักกัน แต่ภพในฝันข้าพเจ้าอายุจะน้อยกว่าเพื่อนๆ และต้องยอมเป็นผู้น้อยกว่า)


แจกันที่เห็นมีขนาดย่อมกว่านี้ แกะลวดลายง่ายๆโดยรอบ

เพื่อนคนแรกจับแจกันเงินได้ด้วยใจร้อนก็เทแจกันลงไปกับพื้น ปรากฏเห็นเหล็กไหลบริวารขนาดเล็กแตกกระจายไปทั่ว ประมาณหลายสิบถึงร้อยเม็ด ขณะนั้นเองข้าพเจ้าก็มองเห็นเหล็กไหลก้อนใหญ่สุด ล่องลอยไปที่ด้านหน้าของห้องโถง ฝั่งที่ข้าพเจ้ายืนอยู่ (ด้านขวา) ขณะที่เพื่อนสองคนกำลังสาละวนหา !?? ข้าพเจ้าก็เดินขึ้นไปหยิบเหล็กไหลก้อนที่ลอยมาดังกล่าว ซึ่งมีขนาดประมาณหัวนิ้วโป้งสีเงินออกดำ (คล้ายเงินพดด้วง) มีลักษณะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ขนาด 1" x 0.5") ครอดตรงกลางคล้ายแจกัน พอหยิบขึ้นแล้วกำเข้ามาในอุ้งมือ ตำแหน่งที่เหล็กไหลครอดกลางจะสอดรับพอดีกับนิ้วกลาง ทันใดนั้นเอง รู้สึกว่าเหล็กไหลจะเชื่อมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับข้าพเจ้า และตัวข้าพเจ้าเหมือนมีอะไรมาครอบร่างเอาไว้ 3 ชั้น





ลักษณะเจ้าแห่งเหล็กไหลในฝัน :จะเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ขนาด 1" x 0.5") มีเว้าตรงกลาง สีเงินออกดำ

เพื่อนสองคนเห็นดังนั้น ก็มือถือดาบกันคนละเล่ม (คนหนึ่งถือมือขวา อีกคนถือมือซ้าย ประมาณว่าจะล้อมข้าพเจ้าเอาไว้) เดินปรี่เข้ามาจะแย่งเอาเหล็กไหล ข้าพเจ้าเลยยกมือขวาที่กำเหล็กไหลขึ้นเชิงห้าม (จิตรู้ว่าสามารถทำลายดาบสองเล่มให้แตกกระเด็นออกไปจากมือเพื่อนได้ แต่ก็ไม่ได้ทำอะไรเพื่อน) เพื่อนสองคนพอเข้ามาใกล้ๆก็เริ่มกลัว และรู้ว่าข้าพเจ้าไม่ใช่คนเดิม คือมีเหล็กไหลอยู่ในครอบครอง ก็ถือว่าเป็นผู้มีอำนาจมากกว่า

จากนั้นข้าพเจ้ากับพวกจึงเดินเข้าไปด้านใน ซึ่งแบ่งเป็นสามชั้น (ชั้นนอกสุดคือด้านหน้าเป็นห้องโถง ชั้นกลาง แล้วทะลุเข้าไปชั้นในสุด) พอไปถึงชั้นในก็มีที่นั่งอยู่ด้านใน ในที่นี้ขอเรียกว่าบรรลังก์เบาะนั่งสีทอง รอบบรรลังก์เป็นไม้ประดับด้วยเงิน ด้านหน้าบรรลังก์มีสถูปคล้ายระฆังคว่ำสีทอง ฐานxสูงประมาณ 3.5x4.5 เมตร (น่าจะเป็นกรุเก็บของสำคัญในยุคก่อนๆที่นิยมสร้าง เป็นสัญลักษณ์ทางพระศาสนา - ไม่ปรากฏเห็นมีพระพุทธรูป)


พระสถูปบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ประดิษฐานภายในหมู่ในถ้ำ Bhaja* ประเทศ อินเดีย
สร้างประมาณ พ.ศ. 300-400 หลังยุคพระเจ้าอโศกมหาราชเล็กน้อย 
 (*Bhaja หรือ บาจา ย่อมาจากรากศัพท์ว่า ปทะ ปทัง ที่หมายถึงพระนิพพาน)
                 
พอมาถึงบรรลังก์ (อีกที) พบว่ามีเด็กชายลูกครึ่งไทย-ฝรั่ง ฝรั่งยืน คนไทยนั่งรวม 3 คน เป็นชายหมด กำลังชมบรรลังก์กันอยู่เมื่อข้าพเจ้าเข้าใกล้บรรลังก์ ความจริงในอดีตก็เริ่มปรากฏ อาจจะด้วยอำนาจของเจ้าแห่งเหล็กไหลหรืออย่างไรไม่ทราบ ทำให้ข้าพเจ้าระลึกชาติอีกชาติ (ในฝัน) ได้ว่า เมื่อก่อนเมืองร้างนี้เป็นเมืองที่ข้าพเจ้าเคยปกครองอยู่ , สถาปัตยกรรมสิ่งก่อสร้างทั้งหลายจะสื่อออกมาคล้ายสีเหล็กไหล (ทึบๆ-เงินดำ-เงินยวง) ตามปรากฏเห็นในนิมิต , เพื่อนที่เมื่อก่อนเป็นทั้งเพื่อนและอยู่ภายใต้การปกครองของข้าพเจ้า (ปัจจุบันทั้งสองคนเป็นเพื่อนธรรมที่อาวุโสกว่าข้าพเจ้า) คงถูกข้าพเจ้าเรียกใช้มาก ฯลฯ ก็ได้ตั้งสัจจะอธิษฐานว่าขอให้ได้เกิดมาเหนือกว่าข้าพเจ้า แต่เหนือกว่าได้เพียงอายุและเป็นอยู่ได้ไม่นาน ก็กลับตาลปัตรเช่นเดิม

การที่เหล็กไหลอยู่ในแจกันตรงห้องโถงแม้จะอยู่ด้านนอก และกาลเวลาจะผ่านไปนานเพียงใด ถ้าไม่ใช่เจ้าของเดิมก็ไม่สามารถหาแจกันเหล็กไหลเจอ ในฝันนี้ก็เช่นกัน ถ้าไม่มีข้าพเจ้า เพื่อนๆก็คงจะมองไม่เห็นแจกันบรรจุเหล็กไหล , ด้วยความผูกพันธ์กัน (ภพชาติในฝันทั้งสองภพชาติ) ต่างดึงดูดเข้าหากันเอง (เป็นที่น่าสังเกตุว่า ในฝันนี้มีแต่ผู้ชายทั้งนั้น)

เจ้าแห่งเหล็กไหลนี้ไม่ใช่เหล็กไหลทั่วๆไป เป็นธาตุกายสิทธิ์ มีดวงจิตครองเฉกเช่นเราท่าน แต่ท่านอยู่สูงกว่าเราในแง่ของอิทธิฤทธิ์ พลานุภาพ ตลอดทั้งบันทึกเรื่องราวแต่หนหลังครั้งก่อน เป็นธาตุกึ่งอมตะ นานแสนนานกว่าจะละจากอัตตภาพนั้นๆจนกว่าจะถึงเวลาบรรลุถึงสัจจะอธิษฐานที่เคยตั้งไว้ ในขณะที่เราท่านยังเวียนว่ายตายเกิดในวัฎฎะ แต่เหล็กไหลก็ยังคงเป็นเหล็กไหล จะแปรสภาพก็เป็นเพียงวรรณะอื่นตามสถานที่สถิต,ตามยุคสมัย เพื่อหลบสายตาของผู้มีวิชาและกิเลสหนา ผู้ครอบครองเหล็กไหลทรงฤทธานี้ได้นั้น จะต้องเป็นเจ้าของคนเดิม เป็นผู้เคยร่วมสร้างบุญสร้างบารมีกันมาแต่เก่าก่อน หรือเป็นความยินยอมของเหล็กไหลที่ต้องการเปลี่ยนเจ้าของ (อาจเพราะเจ้าของเดิม เกิดมีกิเลสครอบงำเสียจนเกินจะแก้ไขเสียเอง) และในภพชาติปัจจุบันนี้ ข้าพเจ้ามั่นใจว่าได้พบเหล็กไหลคู่บารมีองค์เดิมนั้นเรียบร้อยแล้ว


ปล: เรื่องที่เขียนมาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงความฝัน!กับข้อคิดเห็นส่วนบุคคล ควรใคร่ครวญพิจารณาให้รอบครอบเสียก่อน


เรื่องที่เกี่ยวข้องนิมิตของข้าพเจ้า:
01: หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)
10: ฌานนิมิตถึงพระอริยะเจ้า
15: แสงธรรมพระธุดงค์ นิมิตแห่งแสง
16: แสงธรรมพระธุดงค์ ตามหานิมิต 
17: แสงธรรมพระธุดงค์ พบแสงนิมิต

58: นิมิตฝันว่า ได้ดื่มน้ำทิพย์
144: นิมิตฝัน เกี่ยวกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
155: มงคลนิมิต 2 ประการ
160: นิมิตฝันว่า ได้ฟังธรรมจาก...
165: นิมิตฝัน ถึงองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาสอนธรรม
193: นิมิตฝัน เกี่ยวกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
275: นิมิตฝันว่า ได้ถวายอุปัฏฐากหลวงปู่ชา สุภทฺโท
นิมิตฝันว่า ได้พบพญานาคสีน้ำเงินจำศีลอยู่ในถ้ำ
นิมิตฝันว่า ได้พบงูสีขาวเผือก
นิมิตฝันว่า ได้เดินธุดงค์ติดตามองค์ครูบาอาจารย์ไปทางเหนือ
นิมิตฝันว่า ได้ถวายภัตตาหารร่วมกับญาติธรรมจำนวนมาก
นิมิตฝันว่า ได้ครอบครองเจ้าแห่งเหล็กไหล
นิมิตฝันว่า ทำบุญกับพระภิกษุสายหลวงพ่อวัดท่าซุง
นิมิตฝันว่า ได้ติดตามองค์ครูบาอาจารย์บิณฑบาตทางภาคอิสาน
นิมิตฝันว่า ได้เข้ากราบหลวงปู่หา (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
นิมิตฝัน วันออกพรรษา
นิมิตฝันว่า ได้ร่วมขุดหาพระพิมพ์กับองค์ครูบาอาจารย์,หลวงปู่...
นิมิตฝันว่า ได้ติดตามองค์ครูบาอาจารย์ธุดงค์จากบาดาลสู่แดนลับแล (บังบด)