วันศุกร์ที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2554

28: เอาจริงมั๊ย...ต้องให้มันได้อย่างงี้ซี

Natachai: 11-09-2011, 01:14 PM #4749

มีอยู่ตั้งไว้แล้วเสื่อมไป เกิดนั้นเกิดแน่แต่ไม่ทราบว่าเมื่อใด และจะเห็นตามลักษณะคล้ายแผนที่ดังกล่าว แล้วก็เปลี่ยนไปอีกตามกรรมลิขิต......

ดร.นนต์: 11-09-2011, 01:22 PM #4751
ทำไมสิ่งมงคลต่างๆของสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พระวังหน้า พระวังหลวง พระบรมสารีริกธาตุ พระธาตุ เหล็กไหล ลูกแก้ว เพ็ชรนาคา วัตถุมงคลใต้ดิน และอื่นๆ จึงผุดขึ้นมาทั้งจากใต้ดิน เสด็จมาทางอากาศ เสด็จออกมาจากที่ซ่อนเร้น มาสู่ผู้มีบุญ ผู้มีบารมี และพลังพลานุภาพจึงได้รับการปรับเพิ่มพูนขึ้นมามากมายขนาดนี้...ทำไม...ทำไม... ทำไม...

คำตอบคงอยู่ในใจของผู้ไม่ประมาทแล้วนะครับ


IT Man: 11-09-2011, 02:10 PM #4753
ครับผม
นอกจากปรากฏการณ์เรื่องของวัตถุธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ หรืออภินิหารต่างๆในพระพุทธศาสนายุคกึ่งพุทธกาลจะบังเกิดขึ้นอย่างถล่มทลายมากยิ่งแล้ว


ยังเป็นโอกาสดี ของผู้หวังความก้าวหน้าในทางธรรม พัฒนาศักยภาพของตนเองให้สูงส่งยิ่งๆขึ้นไปได้โดยง่าย

ประดุจดั่ง...โลกธาตุนี้ หากผู้มุ่งหวังทางแห่งความพ้นทุกข์เป็นเอกะ ท่านผู้นั้น ย่อมได้พระพร คือความก้าวหน้าในทางธรรมเช่นกันทุกคน

ก็ลองไปศึกษาดูนะครับว่า
มรรคมีองค์ 8 ข้อใดสำคัญที่สุด หากผิด 1 ข้อที่สำคัญดังกล่าว ก็เข้าป่า หาทางออกมิได้ดีๆนิเอง ทำไมท่านถึงเอา สัมมาทิฏฐิ มาไว้ข้างหน้า โปรดค้นหาคำตอบได้ใน หนังสือของ หลวงพ่อทูล ครับ

ขอความเจริญรุ่งเรืองในทางธรรมจงบังเกิดมีกับเพื่อนธรรมทุกท่านเถิด


สมาชิกธรรม: 11-09-2011, 09:45 PM#4765
เรื่องเหนือโลกเกิดขึ้นมากมายหลายอย่างจริงๆครับในช่วงเวลานี้...รวมทั้งวัตถุมงคลที่ทรงอิทธิคุณสูงทั้งหลายก็ทยอยออกมาบางส่วนกลับสู่เจ้าของเดิม ผู้มีบุญและเคยมีส่วนเกี่ยวข้องดั่งที่ท่านดร.นนท์ได้เคยกล่าวไว้ หลายๆคนก็สงสัยและก็รอคอยคำตอบก็คงเป็นเรื่องที่ต้องให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์...ช้าหรือเร็วไม่อาจคาดการณ์ได้แต่การมุ่งเน้นปฎิบัติก็ยังคงอยู่ในใจเรากลุ่มนักรบธรรมเสมอมิห่างหาย...ต้องเร่งแล้วหล่ะครับท่านทั้งหลาย.....

IT Man:11-09-2011, 10:29 PM#4766
ขอบคุณมากครับท่านฤาษี หึหึคุณแม่ชมถามพวกเราเมื่อวาระวันแม่ '54 หลังจากพ่อแม่ครูอาจารย์ได้เทศนาจบ...ว่า "เอาจริงมั๊ย?" ครูชาติตอบก่อนเลยว่า "เอาจริงครับ" หุหุ คุณแม่ชมบอกว่า "ต้องให้มันได้อย่างงี้ซี "

ผมเองในคืนนั้นยังลังเลที่จะตอบ วันต่อมาขึ้นภูผาผึ้งกลับลงมาก็ยังลังเล...พอกลับมาบ้านก็ยังไปเรื่อยๆมาเลียงๆ หลังจากนั้นอีกไม่กี่วัน...ก็ได้เริ่มเปลี่ยนนิสัยจากนอน 5 ทุ่ม ตื่น 7 โมงครึ่ง (ทำแบบนี้มาเกินสิบปี) มาว่าจะตื่นตี 5 ทำวัตรเช้า,เย็นทุกๆวัน ทำได้ไม่กี่วัน ร่างกายกลับตื่นตี 4 มาเอง เรื่อยๆ ไม่ง่วงด้วย แปลก... นานเข้าๆ ก็เป็นกิจวัตรแล้วครับ

ตื่นตี 4 ครึ่ง ทำวัตรเช้า ทำสมาธิ เดินจงกรม ส่วนตอนเย็นก็ 1 ทุ่มเป็นต้นไปหาเวลาทำวัตรเย็น ทำสมาธิ , ประมาณ 4 ทุ่มครึ่งเดินจงกรมอีกรอบ ก็เห็นพัฒนาการมาเรื่อยๆ จึงตกลงปลงใจโทรหาคุณแม่ชมว่า "ผมพร้อมและจะเอาจริงแล้วครับ" (พึ่งจะ)ตอบอย่างมั่นใจอย่างที่ไม่เป็นเป็นมาก่อน

เพื่อน นรธ.บางท่านจะมัวชักช้าอยู่ใย เราพบพระผู้เป็นของจริง เราได้ฟังพระธรรมที่เป็นของจริง แล้วตัวเราหล่ะ? จะเอาจริง (ปฏิบัติให้รู้ธรรมเอง) กะท่านหรือไม่? หากเราเอาจริง,ปฏิบัติจริงเราก็ได้ "ธรรม" อันเป็นของจริงที่ได้เกิดขึ้นในกายและจิตเรานั่นเอง

ทีนี้จักเข้าใจคำว่า "ถึงแล้วจะรู้เอง" "ปัจจัตตัง" "มหัศจรรย์ทางจิต" เช่นกันทุกคนครับ...ทิ้งได้เลยตำรา ก ข หุหุ


สมาชิกธรรม: 11-09-2011, 11:10 PM
ขออนุโมทนาและยินดีด้วยนะครับ"ต้องให้มันได้อย่างนี้ซี"แม่ชมกล่าวถูกต้องแล้วเห็นด้วยครับ ไม่เฉพาะแต่ใครบางคนเท่านั้นแต่เป็นกลุ่มนักรบธรรมทุกๆท่านและรวมถึงที่จะเข้ามาสมทบรวมกลุ่มอีกในวันข้างหน้านี้...(ค่อนข้างเป็นไปได้สูง)มีหลายๆคนร่วมแรงร่วมใจก้าวไปด้วยกันอบอุ่นดีครับ ให้คำแนะนำคำปรึกษาและเป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน...ช้าหรือเร็วก็ทางเดียวกันนั่นแหละหากตั้งใจจริงก้าวเดินอย่างสม่ำเสมอเป็นหน้าที่ที่ต้องทำต้องปฎิบัติเชื่อว่าเส้นชัยสั้นลงอย่างแน่นอนครับผม...