วันอังคารที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

155: มงคลนิมิต 2 ประการ


เมื่อวานตอนเย็นก่อนที่จะทำวัตร ได้น้อมถวายดอกไม้หอม (ดอกจำปาสีเหลือง,ดอกพุทธรักษาสีขาว)
เพื่อบูชาพระพุทธรูปและพระบรมสารีริกธาตุ จากนั้นได้เตรียมภาชนะ เพื่อการบรรจุพระบรมฯ
เพื่อน้อมอัญเชิญไปถวายแด่องค์พ่อครูอาจารย์ เพื่อความเป็นสิริมงคลทั้งปวงในวาระพิเศษนี้

พระบรมสารีริกธาตุทั้ง 9 สัญฐาน

เนื่องจากเจดีย์บรรจุพระบรมฯนั้นมีสองชั้น จึงพิจารณาอัญเชิญพระโลหิตธาตุกับพระธาตุ
ของพระอัครสาวกทั้งสององค์ด้วย โดยอัญเชิญพระโลหิตธาตุของพระโมคคัลลานะเถระเจ้าไว้ด้านล่าง
จากนั้นอัญเชิญพระธาตุของพระสารีบุตรเถระเจ้าไว้ด้านบน ปิดภาชนะ
แล้วอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบันประดิษฐานไว้ ณ เบื้องบนสุด
แล้วอัญเชิญขึ้นหิ้งบูชา เตรียมอัญเชิญต่อไป

จากนั้นเตรียมทำวัตรเย็น ก็ได้นึกขึ้นได้ว่าสายตาไปสัมผัสพระธาตุของหลวงปู่มั่นว่ามีขนาดขยายใหญ่ขึ้นชัดเจน
ก็เลยเดินไปดูบนหิ้งพระธาตุอีกครั้งดูพระธาตุของพระอรหันต์องค์อื่นๆ แล้วก็นึกขึ้นได้ว่า ...
พระธาตุของพระสิวลีขนาดเล็ก เรายังไม่เคยเปิดดูเลย ลองเปิดดูซิว่ามีเพิ่มขึ้นมั๊ย พอเปิดผอบมาเท่านั้นแหละครับ
กลิ่นหอมอ่อนๆโชยมา (เป็นมงคลนิมิตครั้งที่ 1) จึงได้ปิดภาชนะไว้ แล้วมาทำวัตรเย็น

พอทำวัตรเสร็จ คิดว่าน่าจะอัญเชิญพระธาตุของพระสิวลีไปด้วย เนื่องจากสัญฐานนี้ไม่เคยมอบให้ใคร
หรืออัญเชิญออกจากบ้านเลย ผมจึงอัญเชิญเพิ่มด้วย และอัญเชิญพระธาตุของพระราหุลเถระ
กับพระอัญญาโกณฑัญญะเถระไปด้วย สรุปรวมพระธาตุของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล 5 องค์ด้วยกัน
****************************
เมื่อเช้าก่อนตื่นนอน ก็ได้ฝันว่า:
เมื่อตอนเป็นเด็กนักเรียน ได้มาศึกษาธรรมะกับองค์หลวงตามหาบัว (เป็นมงคลนิมิตครั้งที่ 2)
ภายในกุฏิชั้นเดียวที่มุงด้วยหญ้าคา (ทางบ้านผมเรียก"เถียงนา") ธรรมะต่างๆฟังดูคุ้นหูมาก องค์หลวงตาท่านก็รูปร่างผอม
ผิวขาวสว่างไสวเหมือนปกติขณะชราภาพ แต่ท่านสามารถเดินเหินได้โดยสะดวกสบาย
มีอยู่ตอนหนึ่ง ท่านเดินออกจากห้องเรียน ขึ้นไปยังกุฏิท่านฝั่งขวา (ยื่นออกมาเหมือนซุ้ม) ท่านลงมาแล้วเดินหารองเท้า
ปรากฏว่าท่านไปเจอรองเท้าท่าน(งามมาก)อยู่อีกด้าน คือด้านซ้าย (น่าจะเป็นปริศนาธรรมสักอย่าง) จากนั้นท่านก็เดินผ่านหน้า
พวกเราที่นั่งรออยู่ด้านล่าง เมื่อท่านเดินผ่านก็พนมมือไหว้ตามปกติ อีกสักพักผมก็ตื่นนอนมาทำกิจวัตรและทำวัตรเช้าครับ
ก็เป็นเรื่องที่ผมปีติยินดีที่ถือว่าฝันเจอท่านเป็นครั้งที่สอง โดยครั้งแรกฝันเจอท่านก่อนที่จักอัญเชิญพระบรมฯไปถวายท่าน
(ก่อนท่านจะละสังขารเพียงไม่กี่เดือน) ตอนนั้นมีญาติโยมและพระแย้งว่าอย่านำไปถวายท่านเลย เดี๋ยวท่านก็ให้เอาคืนไป
แต่ครานั้นท่านก็เมตตารับไว้ ก็ซาบซึ้งในความเมตตาของท่านมากๆครับ

ขอนอบน้อม กราบ กราบ กราบ
คุณพระพุทธ คุณพระธรรม คุณพระอริยะสงฆ์ ด้วยเศียรเกล้า
IT Man/31.07.55

เรื่องที่เกี่ยวข้องนิมิตของข้าพเจ้า:
01: หลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิตร(ฝัน)
10: ฌานนิมิตถึงพระอริยะเจ้า
15: แสงธรรมพระธุดงค์ นิมิตแห่งแสง
16: แสงธรรมพระธุดงค์ ตามหานิมิต 
17: แสงธรรมพระธุดงค์ พบแสงนิมิต

58: นิมิตฝันว่า ได้ดื่มน้ำทิพย์
144: นิมิตฝัน เกี่ยวกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ พ.สุรเตโช
155: มงคลนิมิต 2 ประการ
160: นิมิตฝันว่า ได้ฟังธรรมจาก...
165: นิมิตฝัน ถึงองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มาสอนธรรม
193: นิมิตฝัน เกี่ยวกับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
275: นิมิตฝันว่า ได้ถวายอุปัฏฐากหลวงปู่ชา สุภทฺโท
นิมิตฝันว่า ได้พบพญานาคสีน้ำเงินจำศีลอยู่ในถ้ำ
นิมิตฝันว่า ได้พบงูสีขาวเผือก
นิมิตฝันว่า ได้เดินธุดงค์ติดตามองค์ครูบาอาจารย์ไปทางเหนือ
นิมิตฝันว่า ได้ถวายภัตตาหารร่วมกับญาติธรรมจำนวนมาก
นิมิตฝันว่า ได้ครอบครองเจ้าแห่งเหล็กไหล
นิมิตฝันว่า ทำบุญกับพระภิกษุสายหลวงพ่อวัดท่าซุง
นิมิตฝันว่า ได้ติดตามองค์ครูบาอาจารย์บิณฑบาตทางภาคอิสาน
นิมิตฝันว่า ได้เข้ากราบหลวงปู่หา (หลวงปู่ไดโนเสาร์)
นิมิตฝัน วันออกพรรษา
นิมิตฝันว่า ได้ร่วมขุดหาพระพิมพ์กับองค์ครูบาอาจารย์,หลวงปู่...
นิมิตฝันว่า ได้ติดตามองค์ครูบาอาจารย์ธุดงค์จากบาดาลสู่แดนลับแล (บังบด)

วันจันทร์ที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

154: สักการะหลวงพ่อศิลา ทุ่งเสลี่ยม สุโขทัย

ในวันเสาร์ที่ 28.07.55

หลวงพ่อศิลา : วัดทุ่งเสลี่ยม อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
อัญเชิญมาจากถ้ำเจ้าราม อายุราว 800 ปี

หลวงพ่อทันใจ : วัดพิพัฒน์มงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย

ขอบคุณครับท่าน ดร.นนต์ ท่านภูเบศวร์ ครับ นามช้างแก้วคู่บุญนั้นถูกใจยิ่งนัก ผมจักนำไปเรียกใช้ครับ
เพื่อความเป็นศิริมงคลกับตัวรถ ผมได้ประเดิมเส้นทางบุญ (บุญวิถี) ระยะทางปานกลางครั้งแรก นั่นคือเดินทางไปสักการะหลวงพ่อศิลา อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย และหลวงพ่อทองคำ ในวัดใกล้ๆกัน (พรุ่งนี้จักนำภาพขึ้น) ก็ขอให้ญาติธรรมทุกๆท่านจงมีส่วนในบุญนี้ มีความสุขสุโขในทางธรรม เฉกเช่นคำ สุโขทัย

การได้มาซึ่งรถคันนี้ (จองที่ กทม. 5 เดือนไม่ได้ แต่มาได้ที่แม่สอด เป็นรถหลุดจอง) คงเป็นเพราะเมตตาบารมีแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์กับพระพุทธนาคปรก 9 เศียร ที่ญาติโยมจักน้อมนำมาถวาย เพราะช่างบังเอิญที่พระพุทธรูปองค์นี้มีศิลปะเหมือนหลวงพ่อศิลาที่พวกเรารู้กันดี อีกทั้งผมยังได้เตรียมหลวงพ่อศิลาองค์น้อยเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในรถ (สร้างเมื่อตอนเจ้าสัว C.P. (ออกทุนทรัพย์) อัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับจากอเมริกา ตอนนั้นทำงานอยู่ C.P.7-11 พอดี) ผมจึงคิดว่าทุกเรื่องมีความสอดคล้องกันอย่างยิ่ง

เมื่อวาน (28.07.55) ระหว่างเดินทางทำบุญฯ มีญาติธรรมร่วมบุญสร้างพระพุทธนาคปรก 9 เศียรมา 3 ท่าน (ท่านที่ทำบุญมา 500 นั้นผมไม่ทราบนาม กรุณาส่ง sms หรือ e-mail ที่อยู่มาให้ผมด้วยนะครับ) แต่ถือว่าทุกท่านโชคดีที่จักได้รับพระพุทธปฐวีธาตุหรือวัตถุมงคลจากผม เพราะนับเป็นมงคลฤกษ์ร่วมบุญตรงกัน ผมจึงขอโอกาสนี้ขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มอบพระพุทธปฐวีธาตุหรือวัตถุมงคล 3 องค์แด่ญาติธรรมทั้ง 3 (ตัวอักษรสีแดง) เพื่อความเป็นศิริมงคลมีกำลังใจสร้างคุณงามความดีและปฏิบัติธรรม แสวงหาหนทางสู่ความพ้นทุกข์ต่อไปครับ

ปล: ยอดรวมร่วมบุญสร้างพระพุทธนาคปรก 9 เศียร: 36,635- บาท
โมทนาสาธุครับ



ผะเจ้าแสนคำหลวง,ผะเจ้าคำหลวง (ทองคำ): วัดพิพัฒน์มงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย

พระปางลีลา สุโขทัย: วัดพิพัฒน์มงคล สุโขทัย

หลวงพ่อทองคำ : วัดพิพัฒน์มงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย

พระปางดีดน้ำมนต์ ประทานพร : วัดพิพัฒน์มงคล สุโขทัย

หลวงพ่อแสนสุข : วัดพิพัฒน์มงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย

หลวงพ่อแสนล้านทอง : วัดพิพัฒน์มงคล อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย
พระพุทธรูปทองคำและเก่าแก่ทั้งหมดของวัดพิพัฒน์มงคล ขุดพบจากใต้ดินที่ประดิษฐานองค์พระในปัจจุบัน

ธรรมรักษ์ผู้ปฏิบัติธรรม
IT Man/29.07.55

วันศุกร์ที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

153: ช้างแก้วคู่บุญ

ช้างเชือกนี้แล...


หมายเลขกุญแจ:2447
ขอแสดงความยินดีด้วยนะครับ.....อย่าลืมเกียร์ถอยเด้อ!..... (สว่าง)
สำคัญมากๆต้องถอยเป็นและถอยคล่องในทุกสถานการณ์.....


ทำให้เป็นธรรม
สมาชิกธรรม
****************
ยินดีด้วยนะครับกับช้างเผือกมงคล ยานพาหนะบุญของคนบุญ ผมคงมีโอกาสได้ยลโฉมเร็วๆนี้นะครับ

ขอเจริญในธรรม
ดร.นนต์
********************
ช้างแก้วคู่บุญได้ประเดิมเส้นทางยาวไกล อย่าได้เผลอเชียวประเดี๋ยวจะเป็นช้างตกมันเข้าเพราะของเค้าแรง
ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพด้วยความไม่ประมาท..
และทุกท่านที่เดินทางไปในวาระนี้ก็เช่นกันครับ
ได้รับความปลอดภัยและเจริญในธรรมครับ
ภูเบศวร์
*************** 
ขอบคุณครับท่าน ดร.นนต์ ท่านภูเบศวร์ ครับ นามช้างแก้วคู่บุญนั้นถูกใจยิ่งนัก ผมจักนำไปเรียกใช้ครับ
เพื่อความเป็นศิริมงคลกับตัวรถ ผมได้ประเดิมเส้นทางบุญ (บุญวิถี) ระยะทางปานกลางครั้งแรก นั่นคือเดินทางไปสักการะหลวงพ่อศิลา อ.ทุ่งเสลี่ยม จ.สุโขทัย และหลวงพ่อทองคำ ในวัดใกล้ๆกัน (พรุ่งนี้จักนำภาพขึ้น) ก็ขอให้ญาติธรรมทุกๆท่านจงมีส่วนในบุญนี้ มีความสุขสุโขในทางธรรม เฉกเช่นคำ สุโขทัย

การได้มาซึ่งรถคันนี้ (จองที่ กทม. 5 เดือนไม่ได้ แต่มาได้ที่แม่สอด เป็นรถหลุดจอง) คงเป็นเพราะเมตตาบารมีแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์กับพระพุทธนาคปรก 9 เศียร ที่ญาติโยมจักน้อมนำมาถวาย เพราะช่างบังเอิญที่พระพุทธรูปองค์นี้มีศิลปะเหมือนหลวงพ่อศิลาที่พวกเรารู้กันดี อีกทั้งผมยังได้เตรียมหลวงพ่อศิลาองค์น้อยเพื่อประดิษฐานเป็นพระประธานในรถ (สร้างเมื่อตอนเจ้าสัว C.P. (ออกทุนทรัพย์) อัญเชิญหลวงพ่อศิลากลับจากอเมริกา ตอนนั้นทำงานอยู่ C.P.7-11 พอดี) ผมจึงคิดว่าทุกเรื่องมีความสอดคล้องกันอย่างยิ่ง

เมื่อวาน (28.07.55) ระหว่างเดินทางทำบุญฯ มีญาติธรรมร่วมบุญสร้างพระพุทธนาคปรก 9 เศียรมา 3 ท่าน (ท่านที่ทำบุญมา 500 นั้นผมไม่ทราบนาม กรุณาส่ง sms หรือ e-mail ที่อยู่มาให้ผมด้วยนะครับ) แต่ถือว่าทุกท่านโชคดีที่จักได้รับพระพุทธปฐวีธาตุหรือวัตถุมงคลจากผม เพราะนับเป็นมงคลฤกษ์ร่วมบุญตรงกัน ผมจึงขอโอกาสนี้ขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์มอบพระพุทธปฐวีธาตุหรือวัตถุมงคล 3 องค์แด่ญาติธรรมทั้ง 3 (ตัวอักษรสีแดง) เพื่อความเป็นศิริมงคลมีกำลังใจสร้างคุณงามความดีและปฏิบัติธรรม แสวงหาหนทางสู่ความพ้นทุกข์ต่อไปครับ

ปล: ยอดรวมร่วมบุญสร้างพระพุทธนาคปรก 9 เศียร: 36,635- บาท
โมทนาสาธุครับ

ธรรมรักษ์ผู้ปฏิบัติธรรม
IT Man/29.07.55

152: วัตถุมงคลประจำช้างเผือก

วันนี้อาศัยฤกษ์สะดวก ได้วัน/เวลาไปจับช้างเผือก...
จึงได้เตรียมวัตถุมงคลประจำเชือก ณ เบื้องต้น (เพื่อความปลอดภัยและสบายใจ)
ระหว่างรอ...ขอความเมตตาสงเคราะห์จากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ครับผม

วันเสาร์ที่ 21 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

151: อภิญญานิเทศ บุพเพนิวาสานุสติญาณกาถา

ความรู้พิเศษเกินกว่ามนุษย์ปกติทั่วไป
บุพเพนิวาสานุสติญาณกาถา
เปรียบปัญญาของแต่ละบุคคล แม้ในปัญญาเครื่องระลึกชาติได้ พระสุตตันตปิฎก ทีฆนิกาย มหาวรรค เล่ม ๒ ภาค ๑ - หน้าที่ ๗๑:

บุพเพนิวาสญาณ...

ของพวกเดียรถีย์ เป็นเช่นกับแสงหิ่งห้อย
ของพระสาวกทั้งหลาย เป็นเช่นกับแสงประทีป
ของพระอัครสาวก เป็นเช่นกับแสงดาวประกายพฤกษ์
ของพระปัจเจกพุทธะทั้งหลาย เป็นเช่นกับแสงพระจันทร์
ของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย เป็นเช่นกับแสงสุริยมณฑลพันดวง


แนวทางปฏิบัติพระกรรมฐาน ได้นำเอาอภิญญานิเทศ นิเทศแปลว่า บทหรือหัวข้อ อภิญญา หมายถึงความรู้พิเศษเกินกว่ามนุษย์ปกติทั่วไปที่มี คำว่า บุพเพนิวาสานุสติญาณกาถา
กาถา หมายถึง การเทศ การบรรยาย

ญาณ แปลว่า ความรู้ที่เกี่ยวกับการใช้สติ
อานุสติ แปลว่า การระลึกนึกถึงสิ่งที่ตัวเองเคยอยู่
นิวาสะ แปลว่า การเคยอยู่อาศัย

บุปพะ แปลว่า ในชาติก่อน

บุพเพนิวาสานุสติญาณกาถา คือหัวข้อว่าด้วย ความรู้เกี่ยวกับการระลึกชาติในอดีต เป็นอีกหนึ่งหัวข้อที่อยู่ในอภิญญา อภิญญา คือความรู้ที่พิเศษ หลัก ๆ มี
๑. อิทธิวิธี คือการแสดงฤทธิ์ต่าง ๆ ได้
๒. การมีตาทิพย์ หมายถึง ทิพย์จักขุ
๓. ทิพยโสต คือหูทิพย์
๔. รู้ใจคนอื่น คือเจโตปริยญาณ
๕. การระลึกชาติ คือ บุพเพนิวาสานุสติญาณ
๖. การทำลายกิเลสให้สิ้นไปจากจิตใจ


พระพุทธโฆษาจารย์ ได้อธิบาย คำว่าระลึกชาติ หมายถึง ขันธ์ คือ ร่างกายและจิตใจที่ตัวเองเคยอาศัยอยู่ในช่วงก่อน ในพุทธศาสนาพูดถึงการเวียนว่าย ตาย เกิด จะพูดถึงภพภูมิต่าง ๆ เช่นตายจากมนุษย์ เกิดเป็นมนุษย์ เคยเกิดเป็นเปรต เคยเกิดเป็นเทวดา เคยเกิดเป็นพรหม เรียกว่า บุพเพนิวาสานุสติญาณ คือการระลึกชาติได้



การระลึกชาติได้ มีหลายประเภท เริ่มต้นชาติที่ติดกับเราคือ ชาติที่แล้วย้อนถัดไปเรื่อย ๆ เวลาระลึกชาติได้จะเห็นว่า เราเคยเกิดแล้วทั้งนั้น เช่น นรกทุกขุม เปรต สัตว์เดรัจฉานแทบทุกประเภท มนุษย์ทุกเพศ ทุกชั้นวรรณะ เทวดาทุกชั้นทั้ง ๖ ชั้น มีศัพท์ ๒ ศัพท์ คือ จุติ คือการตาย อุบัติ คือการเกิด เช่น ใช้คำว่าว่า เทวดาจุติ คือการตายแล้วไปอุบัติ จุติคือการเคลื่อน

ความสามารถในการระลึกต่างกัน
๑. เดียรถีย์ทั้งหลาย ระลึกได้แต่ลำดับขันธ์ ไม่อาจปล่อยลำดับมาระลึกโดยจุติ ปฏิสนธิได้
๒. พระปกติสาวก ระลึกโดยลำดับขันธ์บ้าง ระลึกก้าวไปโดยจุติ ปฏิสนธิบ้าง
๓. พระมหาสาวก เช่นเดียวกับพระปกติสาวก
๔. พระอัครสาวก กิจด้วยการระลึกตามลำดับขันธ์หามีไม่ ระลึกก้าวไปในจุติ ปฏิสนธิทีเดียว เห็นจุติอัตภาพหนึ่ง เห็นปฏิสนธิในอัตภาพอื่น
๕. พระปัจเจกพุทธทั้งหลาย ก็เช่นเดียวกับพระอัครสาวก
๖. พระพุทธเจ้าทั้งหลาย มีพระประสงค์จะทรงทราบ ตรงที่ใด ในกาลใด แม้หลายโกฏิกัป ในที่นั้นๆ ก็ปรากฏแก่พระองค์โดยแท้

(ที่มา - คู่มือการศึกษา วิสุทธิมัค [สังเขป] รวบรวมโดยอาจารย์วรรณสิทธิ ไวทยะเสวี)
 ในการระลึกชาติได้ ๖ ประเภท ปริมาณการระลึกชาติได้ก็จะต่างกันไป
ประเภทที่ ๑ เดียรัตถี ระลึกชาติได้เต็มที่แค่ ๔๐ กัปป์
กัปป์เป็นอย่างไร มีหลุมลึก กว้าง ยาว ด้านละ ๑๖ กิโลเมตร พอ ๑๐๐ ปี ใส่เมล็ดผักกาดพืชลงไป ๑ เมล็ด จนกระทั่งเต็มหลุม เท่ากับ ๑ กัปป์ ๔๐ กัปป์ไม่ใช่ธรรมดาเราไม่รู้ว่าจะนานกี่แสนปี นักบัญชีคงงงต้องใช้ปัญญาพิเศษของพระพุทธเจ้าคิดที่เหนือกว่าเครื่องคิดเลข จึงมีคำถามว่า ทำไมถึงระลึกชาติได้แค่นี้ท่านบอกว่า เพราะคนพวกนี้มีปัญญาอ่อน จึงระลึกชาติได้แค่นี้ ปัญญาอ่อนนี้ หมายถึง การปราศจากการกำหนด นาม และรูป หมายถึง ไม่มีการเจริญวิปัสสนาเหมือนพระพุทธศาสนา ทุกขัง อนิจจัง อนัตตา โสรัจ คือฝึกจิตล้วน ๆ ตั้งแต่ ญาณ ๔ ได้แก่ ญาณสมาบัติ ค่อย ๆ ฝึกจิตระลึกชาติได้
ประเภทที่ ๒. พระสาวกปกติ ใช้เวลาบำเพ็ญ ๑๐๐ ถึง ๑๐๐๐ มหากัป มากบ้าง น้อยบ้าง แล้วแต่บารมี เพราะปัญญากล้า คือได้เจริญ นาม รูป วิปัสสนา
ประเภทที่ ๓. พระอสีติมหาเถระ ๘๐ รูป อสีติ แปลว่า แปดสิบ เช่น พระมหากัสสะปะ พระอานนท์ พระอนุรุตทะ สร้างบารมีมา ๑๐๐๐๐๐ กัป
ประเภทที่ ๔. พระอัครสาวกทั้งสอง ได้แก่ พระโมคคัลลา พระสารีบุตร ระลึกชาติได้ ๑ อสงขัย กับ ๑๐๐๐๐๐ กัปป์ ๑ อสงขัย คือนับไม่ได้ คำนวณไม่ได้ คำนวณได้โดยใช้ปัญญาพระพุทธเจ้า
ประเภทที่ ๕. พระปัจเจกพุทธเจ้า ระลึกชาติได้ ๒ อสงไขย กับ ๑๐๐๐๐๐ กัปป์ เพราะการบำเพ็ญบารมีมาในระดับนี้
ประเภทที่ ๖. พระพุทธเจ้า ไม่มี ไม่ได้กำหนด อยากจะระลึกชาติใดก็ได้ เท่าใดก็ได้
แล้วทำไมระยะเวลาการระลึกชาติทำไมถึงต่างกัน การระลึกชาติ สำหรับ เดียรรัตถี ระลึกได้ตามลำดับ พิสดารไม่ได้ คือชาติจากที่เกิด ถัดไปเรื่อยๆ จะข้ามกระโดดไม่ได้ คล้ายคนตาบอดต้องใช้ไม้เท้าไปทีละก้าว ตามลำดับ จะกระโดดเหมือนคนตาดีไม่ได้

สำหรับพระพุทธเจ้ามีญาณมาก จะกระโดดไปชาติไหนก็ได้
เพราะสร้างบารมีเยอะ พลังการระลึกชาติก็มีมาก

 

วันศุกร์ที่ 13 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

150: ประชันความเขียว

มอสเขียวๆ: สัญลักษณ์ความสมบูรณ์ทางธรรมชาติ


ไกโจ้น=ไก่ตัวผู้ (ภาษาอิสาน) ที่คนนำมาแก้บน / เหมือนที่ศาลสมเด็จพระนเรศวรเลย

อยู่บนม้านั่ง : ช่างกลมกลืนกันจริ๊ง

เป็นมิตรกับคน

ช้างหลังเขียวอยู่ไกลๆ

แหวนเขียวๆ (เพชรพญานาค) และแก้วโป่งขาม (ของดีนะเนี่ย)

ประชันความเขียวกันต่อ...

อากาศเย็นยะเยือกแถมฝนว่าจะตกแล้ว...กลับดีกว่า

ถนนเส้นนี้ : ทางก็ดี ถนนก็กว้าง แต่ปราบเซียนต่างถิ่นมามากแล้ว

149: ขุนเขาและศาลเจ้าพ่อพะวอ

ขุนเขาและศาลเจ้าพ่อพะวอ (เส้นทางแม่สอด-ตาก) :
ท่านเป็นนักรบกล้า (นายรักษาด่านแม่สอด ต่อสู้พม่าจนตัวตายในสนามรบ)
ยุคสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่คนที่นี่ให้ความเคารพนับถือกันทั้งจังหวัดครับ

กำลังขยายเส้นทางกัน

ถึงแล้วครับ

ศาลเจ้าพ่อพะวอ

ก่อนไหว้เจ้า ต้องไหว้พระเจ้าทันใจ (พระนาคปรก) พระองค์นี้ก่อนครับ


พระเจ้าทันใจ

พระพิฆเนศ

มองย้อนลงไปทางศาล

ต้นกล้วยป่า แปลกตาดี

วันพุธที่ 11 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

148: ยิ่งเข้าใกล้ธรรม ยิ่งห่างไกลโลก


การก้าวไปในการพิจารณาธรรมภาคปฏิบัติเรื่อง ยิ่งใกล้ธรรม ยิ่งห่างไกลโลก
(ประมวลจากความคิดเห็นส่วนตัว)

ยิ่งปฏิบัติก้าวไปในทางธรรมอันละเอียดมากขึ้นไปเท่าไร ก็รู้สึกว่า ตนเองได้ห่างไกลจากโลกมากยิ่งขึ้นเท่านั้น
แต่เนื่องจากว่าเรายังอยู่ในโลกที่เต็มไปด้วยสิ่งสมมุติ จึงต้องใช้สิ่งสมมุติทั้งหลายนั้นให้เกิดประโยชน์ในทางที่ชอบมากที่สุด นักปฏิบัติธรรมที่ดี ย่อมจะอยู่อาศัย ณ ที่ใดก็ได้ในโลกนี้ อย่างเข้าใจในความเป็นไปของโลก โดยที่ไม่เดือดร้อนอนาทรจิตใจ เพราะโลกเขาก็เป็นของเขาเช่นนี้ถ้วนทั่วทุกตัวตน ไม่ว่าจะเป็นคน สัตว์ สิ่งของ ธรรมชาติต่างๆ ต่างก็เป็นไปตามยุคสมัย ต่างก็เป็นไปตามกาลเวลา เป็นไปตามกฏแห่งไตรลักษณ์ ใจของเราต่างหากที่ไม่ควรเอา ไม่พัวพัน ไม่ยึด ไม่ติดไปกับของเหล่านั้น ประดุจดั่งน้ำกลิ้งอยู่บนใบบอนฉะนั้น

ในการปฏิบัติ ณ เบื้องต้น ให้เอาใจไปผููก ไปยึด ไปติดกับคุณพระพุทธเจ้าทั้งหลาย คุณพระธรรมเจ้าทั้งหลาย คุณพระอริยสงฆเจ้าทั้งหลาย ให้เอาจิตเอาใจไปยึดในคุณงามความดีทั้งหลาย
ในขณะเดียวกันก็พยายามซักฟอกกิเลสทั้งหลายที่เกิดขึ้นมา กระทบเข้ามา ผ่านเข้ามา ให้ระงับดับหายไปให้เร็วที่สุดโดยมีสติเป็นผู้กำกับ มีอุบายทางปัญญาในการสั่งสอนจิตสอนใจมิให้เขาหลงผิด เพราะเขาหลงมาตลอด

(มีต่อ...)

วันอังคารที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

147: นมัสการหลวงพ่อจ่า

เนื่องจาก batt กล้องผมหมดและไม่ได้เตรียมกล้องมาในภาคเช้าวันที่ 30 มิ.ย.55 จึงไม่มีภาพในช่วงเช้าที่...

หลวงพ่อจ่าขณะนั่งสนทนากับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์บนซุ้มรับรองพระเถระ


1. หลวงพ่อท่านมาถึงประมาณ 9 โมง (เป็นเวลาที่องค์พ่อแม่ครูอาจารย์กลับจากบิณฑบาตรโปรดญาติโยมพอดี)

องค์พ่อแม่ครูอาจารย์

2. เวลาประมาณ 10 โมงเช้า: องค์หลวงพ่อจ่ากับองค์พ่อแม่ครูอาจารย์บิณฑบาตรโปรดญาติโยม ณ. ภูดานไห
จากนั้นทั้งสองรูปรับถวายภัตตาหาร (นับเป็นบุญกุศลกับทุกๆท่านเป็นยิ่งนัก)
3. ผม (IT Man) น้อมถวายพระบรมสารีริกธาตุองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระองค์ปัจจุบัน
พระพิมพ์ TOP1,TOP4 และพระพิมพ์สายวัง 1 กล่อง

4. ท่านพิเชฐน้อมถวายพระพิมพ์ TOP4 พระพิมพ์สายวัง 2 กล่องและสร้อยประคำ 1 เส้น

5. คุณแม่ชมเป็นตัวแทนองค์พ่อแม่ครูอาจารย์น้อมถวายผ้าไตรและเครื่องไทยทาน (ตามลำดับ 1-6)
6. ญาติโยมรวบรวมปัจจัยถวายแด่หลวงพ่อในนาม"ศิษย์ภูดานไห"ทั้งสิ้น 26,820 บาท โมทนาสาธุครับ

ท่านพิเชฐ(สมาชิกธรรม)อัญเชิญพระบรมฯและพระพิมพ์ ผมอัญเชิญบาตรหลวงพ่อขณะเตรียมกลับในช่วงบ่ายๆ

กรุณาดูต่อในบอร์ดพุทธภูมิฯ
02: หลวงพ่อให้ธรรมะ
03: กราบนมัสการลาและน้อมส่งหลวงพ่อเดินทางกลับ
04: ภาคกลางคืน:รับฟังธรรมะจากองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
05: สนทนาธรรมยามเช้า (1 ก.ค.55)
06: องค์พ่อแม่ครูอาจารย์ออกรับบิณฑบาตรด้านหน้าโรงครัว
07: พระสมเด็จเนื้อเหล็กไหลสายวังฯ
08: พระพุทธปฐวีธาตุ ชุดวรรณะทอง
09: พระพุทธปฐวีธาตุ ชุดวรรณะทอง (ต่อ)
10: กุฏิคุณแม่บุญชม
11: ขออนุญาตลากลับ (จบ)
(เพิ่มเติม)
12: รับถวายภัตตาหารกับปัจจัยไทยทาน
13: ขออนุญาตถ่ายภาพร่วมเพื่อเป็นที่ระลึก
14: น้อมส่งหลวงพ่อขึ้นรถ เพื่อเดินทางกลับ