เกิดเป็น "คน" ฤาจะพ้นคำ "นินทา"
พระพุทธองค์ผู้ทรงประเสริฐเลิศล้นเกินสามโลก ยังมิพ้นคนนินทา
พระพุทธองค์ผู้ทรงประเสริฐเลิศล้นเกินสามโลก ยังมิพ้นคนนินทา
เพราะมันเป็นของคู่โลก (มียศ เสื่อมยศ มีลาภ เสื่อมลาภ มีสุข มีทุกข์ มีสรรเสริญ จึงมี...นินทา)
นี่หล่ะ "โลกธรรม" ของแท้และจะเป็นเช่นนี้แน่ๆตลอดไป
นี่หล่ะ "โลกธรรม" ของแท้และจะเป็นเช่นนี้แน่ๆตลอดไป
หากเปรียบคำ "นินทา" เหมือน "อุนจิ" เมื่อมีผู้หยิบยื่นอุนจิให้เรา แต่เราไม่รับ อุนจินั้นจะเป็นของผู้ใดไปมิได้...
นอกจากเจ้าของอุนจิคนนั้น (นั่นเอง)
กรรมเรื่องวจีทุจริตมีตั้งหลายประการเช่น พูดเท็จ พูดส่อเสียด พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล พูดนินทาว่าร้ายคนอื่น
กรรมเรื่องมโนทุจริต ก็คิดเบียดเบียน อิจฉาริษยาเขา เป็นต้น
รวมความแล้วอยู่ใน "อกุศลกรรมบท 10 ประการ" ก็ขอให้พยายามลด ละ เลิก จนเป็นปกตินิสัยของเรา
ขอเรียกกรรมบท 10 ประการนี้ว่าฉบับ upgrade ให้เหนือกว่า "ศีล 5" ธรรมดาสามัญ
กรรมเรื่องมโนทุจริต ก็คิดเบียดเบียน อิจฉาริษยาเขา เป็นต้น
รวมความแล้วอยู่ใน "อกุศลกรรมบท 10 ประการ" ก็ขอให้พยายามลด ละ เลิก จนเป็นปกตินิสัยของเรา
ขอเรียกกรรมบท 10 ประการนี้ว่าฉบับ upgrade ให้เหนือกว่า "ศีล 5" ธรรมดาสามัญ
หากจะ upgrade ให้สูงกว่านั้นอีก ก็ต้องเจริญ "พรหมวิหารธรรมทั้ง 4" ประการ
นั่นคือเมตตาในทางที่ชอบ กรุณาในทางที่ชอบ มุทิตาในทางที่ชอบ และอุเบกขาในทางที่ชอบ
นั่นคือเมตตาในทางที่ชอบ กรุณาในทางที่ชอบ มุทิตาในทางที่ชอบ และอุเบกขาในทางที่ชอบ
ส่วนกรรมที่มันล่วงมาแล้ว แล้วส่งผลถึงกรรมในปัจจุบัน ก็อย่าไปรื้อฟื้นหาเหตุให้ปวดหัวมากนัก
เนื่องจากมันเป็นอดีตไปแล้วไม่มีสาระแก่นสารอันใด
เนื่องจากมันเป็นอดีตไปแล้วไม่มีสาระแก่นสารอันใด
จึงขอให้ทำกรรมในปัจจุบันขณะนี้เท่านั้นให้ดี โดยพิจารณาว่า "จิตของเรา" คิดไปในทางกุศลหรืออกุศล หากเป็นทางอกุศลจะทำให้ใจของเรามันเสียหาย เหนื่อยหน่ายในการสร้างคุณงามความดี จึงขอให้ "หยุดคิด" มันเสีย แล้วเพียรคิดเพียรทำแต่สิ่งดีงาม ท่านว่ามาประมาณนี้
"น้ำขังไว้ไม่ไหล ย่อมเน่าฉันใด คำนินทาฟังแล้วไม่ปล่อยวาง ย่อมทุกข์ฉันนั้น"
ว่าไปตามธรรม
25.04.56