"จาก...สุขสมบัติ สู่...ธรรมสมบัติ"
วาระธรรมะสัญจรครั้งที่ ๒: องค์พ่อแม่ครูอาจารย์มอบนาม "บ้านสุขสมบัติ" แด่ผม
ปล:
เพ็ง : ว. เต็ม เช่น วันเพ็ง. (เลือนมาจาก เพ็ญ).
พล
พล : [พน, พนละ, พะละ] น. กําลัง, มักใช้ประกอบคําอื่น เช่น พระทศพล อันเป็นพระนามพระพุทธเจ้า หมายความว่า ทรงมีพระญาณอันเป็นกำลัง ๑๐ ประการ
มี ฐานาฐานญาณ คือ ปรีชาหยั่งรู้ฐานะและสิ่งที่มิใช่ฐานะเป็นต้น; ทหาร เช่น กองพล ตรวจพล ยกพลขึ้นบก; สามัญ, ธรรมดา ๆ, พื้น ๆ, เช่น ของพล ๆ;
ยศทหารและตํารวจสัญญาบัตร รองจากจอมพล (เดิมใช้ว่า นายพล). (ป., ส.).
คุณแม่ชมได้ขยายความว่า "สุขสมบัติที่พ่อแม่ครูอาจารย์ตั้งให้ลูก ไม่ใช่สุขในทรัพย์สมบัติตามภาษาทางโลก แต่เป็นสุขในทางธรรมสมบัตินะลูก"
องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ได้เมตตาสอนเรื่อง "ธรรมสมบัติ" ไว้ดังนี้
อะไรๆที่เป็นสมบัติของโลก
มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา...
ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล...
ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล...
สมบัติในโลกเราแสวงหามา...
หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา
เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริงๆ
"ธรรม"...หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา
เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริงๆ
เป็นเครื่องปกครองสมบัติและปกครองใจ
ถ้าขาด "ธรรม" เพียงอย่างเดียว
ความอยากของใจจะพยายามหาทรัพย์
ได้กองเท่าภูเขาก็ยังหาความสุขไม่เจอ
ไม่มี "ธรรม" ในใจเพียงอย่างเดียว
จะอยู่โลกใด กองสมบัติใด ก็เป็นเพียง "โลก"
เศษเดนและกองสมบัติเดนเหล่านั้น
ไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใจแม้แต่นิด
ความทุกข์ทรมาน ความอดทน
ทนทาน ต่อสิ่งกระทบต่างๆนั้น..
ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งเท่า "ใจ"
ถ้าได้รับความช่วยเหลือที่ถูกทาง
"ใจ" ก็จะกลายเป็นของประเสริฐ
ให้เจ้าของได้ชมอย่างภูมิใจ ต่อเรื่องทั้งหลายทันที...
โมทนาสาธุ
กราบ กราบ กราบ
"จิต-โลก-ธรรม"
ธรรมอยู่ในโลก มีใช้ในโลก อยู่เหนือโลก
จิตปุถุชนกิเลสหนา อยู่ในโลก แต่ใต้โลก (แบกโลกไว้)
จิตปุถุชนกิเลสปานกลาง อยู่ในโลกระดับเดียวกัน
จิตปุถุชนกิเลสเบาบาง หมั่นฝึกใจให้ว่าง สว่าง สงบ
จักต้องดำเนินไปเหนือโลกและพ้นโลกไม่ต้องกลับมาอีก
(ความคิดเห็นส่วนตัว)