วันจันทร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

100: พระศรีอริยเมตตรัยพุทธเจ้า

พุทธวิสัย ยากแท้ที่สาวกภูมิจักรู้ได้ แม่นบ่?
พระพุทธองค์ในอดีต:ท่านทรงดับขันธ์สู่ปรินิพพานนานแล้ว...แต่พระองค์ถัดไปคือ
*****************************************
หลังจากได้รับพุทธพยากรณ์เป็นครั้งแรกจากพระพุทธเจ้า
เมื่อสมัยเป็นพระโพธิสัตว์หลังจากนั้น 16 อสงไขยแสนกัป
ได้สร้างบารมีกับพระพุทธเจ้าอีกประมาณ 477,029 พระองค์
เป็นวิริยะพุทธเจ้า อายุไขย 80,000 พรรษา
พระสรีระสูง 80 ศอก หรือ 40 เมตร
บำเพ็ญทุกกิริยาชาติสุดท้าย 7 วัน
พุทธรังสีสร้านไปไกล ยังกำหนดไม่ได้
พระแก้วประจำองค์ พระแก้วแดง และทรงเครื่องบรมหาจักรพรรดิ
หน้าตักกว้าง 20 วา
*****************************************
พระพุทธเจ้าที่ล่วงมาแล้วหลายพระองค์ มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน อุปมาว่าจำนวนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ได้ล่วงไปแล้วมีจำนวนมากกว่าเม็ดทรายในมหาสมุทรทั้งสี่ พระพุทธเจ้าทรงแนะว่าไม่ควรคิดถึงเรื่องของพระพุทธเจ้า เพราะเป็นอจินไตย (แปลว่า เป็นเรื่องที่มนุษย์ปุถุชนอย่างเราไม่ควรคิดเพราะเป็นเรื่องที่ลึกลำเหนือ จินตนาการของมนุษย์)

พระสมณโคดมสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้สร้างบารมีทั้ง ๓๐ ทัศ จนครบถ้วนบริบูรณ์ ใช้เวลาถึง ๒๐ อสงไขย กับอีกแสนมหากัป

สมัยหนึ่ง พระอานนท์ได้ทูลถามพระผู้มีพระภาค ว่า "ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ความปรารถนาที่จะเป็น พระพุทธเจ้า ทั้งหลายควรใช้เวลานานเท่าไร พระพุทธองค์ตรัสว่า ดูก่อนอานนท์ ความปรารถนา เป็นพระพุทธเจ้าทั้งหลาย โดยการกำหนดอย่างต่ำที่สุด ๒๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป กำหนด ปานกลาง ๔๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป กำหนดอย่างสูง ๘๐ อสงไขย กับ ๑๐๐,๐๐๐ กัป ทั้ง ๓ ประเภทนั้น คือ พระพุทธเจ้าผู้เป็นปัญญาธิกะ สัทธาธิกะ และวิริยาธิกะ "
อาจมีผู้สงสัยว่า ทำไมต้องกำหนดเวลานานอย่างนั้นด้วย ถ้าเร่งสร้างบารมีอย่างเต็มที่ เพียงไม่กี่ล้านชาติ ก็น่าจะสามารถตรัสรู้ธรรมได้ เหมือนกับถ้าขยันเรียนหรือขยันทำงาน ก็สามารถประสบความสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว แต่อันที่จริงการจะเป็น พระพุทธเจ้าไม่ใช่ง่ายอย่างที่คิด
พระพุทธองค์ตรัสว่า แม้บุคคลจะถวายมหาทาน เหมือนกับมหาทาน ของพระเวสสันดรทุกๆ วันก็ดี สั่งสมบารมีธรรม มีศีล เป็นต้น เพื่อมุ่งสัพพัญญุตญาณก็ดี หากยังไม่ถึง ๒๐ อสงไขย ๑๐๐,๐๐๐ กัปแล้ว ยังไม่อาจเป็นพระพุทธเจ้าได้ เพราะญาณยังไม่แก่รอบ ยังไม่ถึงความไพบูลย์ เปรียบเหมือนข้าวกล้าจะออกรวงได้ ต้องใช้เวลา ๔ หรือ ๕ เดือน แม้จะขยันรดน้ำวันละ ๑๐๐,๐๐๐ ครั้ง ทุกๆ วัน ก็ยังไม่อาจออกรวงภายใน ๑ เดือน ฉันใด ทุกสิ่งทุกอย่างก็ต้องค่อยเป็นค่อยไปตามกาลเวลาที่เหมาะสม ฉันนั้น

ยอดนักสร้างบารมีทั้งหลาย...การสร้างบารมีชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันของพระบรมโพธิสัตว์เพื่อการได้ตรัสรู้สัมมาสัมโพธิญาณนั้น ต้องใช้เวลายาวนานเหลือเกิน แต่ก็ไม่เกินใจที่ท่านจะไปถึง และท่านก็ทำได้สำเร็จอีกด้วย ยิ่งถ้าหากเราได้ศึกษาวีรกรรม แห่งความดีระหว่างการสร้างบารมีของพระองค์จะยิ่งซาบซึ้งหนักขึ้นไปอีก เพียงเท่านี้ ก็นับเป็นบุคคล มหัศจรรย์ที่สุดในโลกแล้ว
ดังนั้นวันวิสาขบูชาจึงสมควรแล้วที่องค์การสหประชาชาติจัดให้เป็น วันสำคัญสากลโลก ชาวพุทธทุกคนจึงควรจะเจริญพุทธานุสติ รำลึกนึกถึงพระพุทธคุณอันไม่มีประมาณ ทั้งพระปัญญาธิคุณ พระบริสุทธิคุณ พระกรุณาธิคุณ แล้วหาโอกาสแสดงออกถึงความศรัทธาเลื่อมใสในพุทธคุณทั้งอามิสบูชาและปฏิบัติบูชา เข้าวัด ฟังธรรม ปฏิบัติธรรม ปฏิบัติตนให้สมกับเป็นพุทธมามกะ อานิสงส์นี้จะได้หนุนส่งให้ทานทั้งหลายได้เกิดใน บวรพุทธศาสนาไปทุก ภพทุกชาติ ตราบวันถึงที่สุดแห่งธรรม...

"ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เอกบุรุษเมื่ออุบัติขึ้นในโลก ย่อมอุบัติขึ้นเพื่อประโยชน์สุขแก่ชนหมู่มาก เพื่อความอนุเคราะห์ ชาวโลก เพื่อประโยชน์สุขแก่เทวดาและมนุษย์ทั้งหลาย เอกบุรุษคือใคร คือ พระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า"
*****************************************
- จากญาณหยั่งรู้แห่งองค์หลวงปู่...รูปหนึ่ง เป็น 1 ใน 10 พระนิยตโพธิสัตว์เจ้าที่จักเสด็จลงมาอุบัติในกาลข้างหน้า
(ครูบาอาจารย์สายหลวงปู่มั่น...ให้การรับรอง) ท่านบอกว่า
"องค์พระศรีฯจักลงมาเกิดอีก 30,000 ชาติ จึงจักถึงกาลอุบัติแห่งพระองค์ท่าน"
- ไม่นานเลยนะครับ หากเทียบกับการสร้างสมพระบารมีกับพระพุทธเจ้าที่มีมาถึง 477,029 พระองค์!
- 477,029 พระองค์ (หากคิดเป็นภพชาติหรือปี จักต้องเติมศูนย์อีกไม่รู้เท่าไหร่)
ปล:
- ญาณหยั่งรู้ของผู้ที่จักมาเป็นพระพุทธเจ้า ย่อมแจ่มแจ้ง ชัดเจน กว้างขวางในพุทธวิสัยมากว่าพระอรหันต์
- หากท่านไม่เชื่อก็โปรดวางเฉย เพราะเป็นเรื่องเกินตัวของปุถุชน
*****************************************

วันศุกร์ที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

99: 24 มีนาแทนคุณบิดามารดา

ในเดือนหน้า 23-24-25 มี.ค 55 : วาระแทนคุณบิดามารดา
ผมจะขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์กับองค์พระพิมพ์อัญเชิญ

1. พระพุทธปฐวีธาตุแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ :แทนคุณบิดา
2. พระพิมพ์สมเด็จกลักไม้ขีดลงรักปิดทอง :แทนคุณมารดา
อธิษฐานจิตโดย
- หลวงปู่เจ้าประคุณสมเด็จโต พรหมรังสี (กายเนื้อ)
- คณะหลวงปู่ใหญ่บรมครูพระเทพโลกอุดร (ทั้งห้า)
อิทธิคุณ:
ดีเลิศในทุกๆด้าน โดยเฉพาะเรื่องมหาลาภ มหาโภคทรัพย์ มหานิยม
และ: จักขออนุญาตองค์พ่อแม่ครูอาจารย์แผ่บารมีเพิ่มให้
รายการละ 1 องค์ รวม 2 รายการ
มาร่วมประมูลหาปัจจัยสร้างวัดภูดานไห และตอบแทนญาติธรรมที่เข้ามาศึกษา สนใจในบอร์ดหลวงปู่แหวนฯ
โดยไม่มีการกำหนดคุณสมบัติผู้ร่วมประมูล ขอเพียงท่านมีจิตศรัทธาเท่านั้น
เนื่องด้วยอายุผมจะ 39 ปี ในวันที่ 24 มีนาคม จึงคิดว่าจะเริ่มที่ 939 บาทต่อรายการ โดยการประมูลผ่าน 3 ช่องทางคือ
1. ผ่านเวปบอร์ดหลวงปู่แหวนมาโปรดในนิมิต
2. ผ่านทาง e-mail : it.man@hotmail.co.th (กรณีไม่มี id)
3. ผ่านทางเบอร์มือถือผม : 087 683 2992
ทั้งนี้ ผมจักคอย update ให้ทราบเป็นระยะๆ เริ่ม 1 มี.ค. สิ้นสุด 23 มี.ค. 55
ปล: พระพิมพ์สมเด็จก็นับว่าหายากแล้ว แต่พระพิมพ์สมเด็จที่พิเศษระดับ 5 ดาวมี 5 พิเศษดังนี้
1. วาระ,ฤกษ์พิเศษ
2. องค์เสกพิเศษ
3. มวลสารพิเศษ
4. พิมพ์หนาพิเศษ
5. ลงรักปิดทองหน้า-หลังพิเศษ
มีเพียงวาระนี้ วาระแทนคุณบิดามารดารอบปีที่ 39 นี้วาระเดียวเท่านั้นเด๊อ...โมทนาสาธุครับ

98: จาก...สุขสมบัติ สู่...ธรรมสมบัติ



"จาก...สุขสมบัติ สู่...ธรรมสมบัติ"
วาระธรรมะสัญจรครั้งที่ ๑: องค์พ่อแม่ครูอาจารย์มอบนาม "สวนสันติธรรม" แด่ท่านสันติ-จันทร์
วาระธรรมะสัญจรครั้งที่ ๒: องค์พ่อแม่ครูอาจารย์มอบนาม "บ้านสุขสมบัติ" แด่ผม

ปล:
เพ็ง : ว. เต็ม เช่น วันเพ็ง. (เลือนมาจาก เพ็ญ).
พล
พล : [พน, พนละ, พะละ] น. กําลัง, มักใช้ประกอบคําอื่น เช่น พระทศพล อันเป็นพระนามพระพุทธเจ้า หมายความว่า ทรงมีพระญาณอันเป็นกำลัง ๑๐ ประการ
มี ฐานาฐานญาณ คือ ปรีชาหยั่งรู้ฐานะและสิ่งที่มิใช่ฐานะเป็นต้น; ทหาร เช่น กองพล ตรวจพล ยกพลขึ้นบก; สามัญ, ธรรมดา ๆ, พื้น ๆ, เช่น ของพล ๆ;
ยศทหารและตํารวจสัญญาบัตร รองจากจอมพล (เดิมใช้ว่า นายพล). (ป., ส.).
คุณแม่ชมได้ขยายความว่า "สุขสมบัติที่พ่อแม่ครูอาจารย์ตั้งให้ลูก ไม่ใช่สุขในทรัพย์สมบัติตามภาษาทางโลก แต่เป็นสุขในทางธรรมสมบัตินะลูก"
องค์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตเถระ ได้เมตตาสอนเรื่อง "ธรรมสมบัติ" ไว้ดังนี้
อะไรๆที่เป็นสมบัติของโลก
มิใช่สมบัติอันแท้จริงของเรา...
ตัวจริงไม่มีใครเหลียวแล...
สมบัติในโลกเราแสวงหามา...
หามาทุจริตก็เป็นไฟเผา
เผาตัวทำให้ฉิบหายได้จริงๆ
"ธรรม"...
เป็นเครื่องปกครองสมบัติและปกครองใจ
ถ้าขาด "ธรรม" เพียงอย่างเดียว

ความอยากของใจจะพยายามหาทรัพย์
ได้กองเท่าภูเขาก็ยังหาความสุขไม่เจอ
ไม่มี "ธรรม" ในใจเพียงอย่างเดียว
จะอยู่โลกใด กองสมบัติใด ก็เป็นเพียง "โลก"
เศษเดนและกองสมบัติเดนเหล่านั้น
ไม่มีประโยชน์อะไรแก่ใจแม้แต่นิด
ความทุกข์ทรมาน ความอดทน
ทนทาน ต่อสิ่งกระทบต่างๆนั้น..
ไม่มีอะไรจะแข็งแกร่งเท่า "ใจ"
ถ้าได้รับความช่วยเหลือที่ถูกทาง
"ใจ" ก็จะกลายเป็นของประเสริฐ
ให้เจ้าของได้ชมอย่างภูมิใจ ต่อเรื่องทั้งหลายทันที...
โมทนาสาธุ
กราบ กราบ กราบ

"จิต-โลก-ธรรม"
ธรรมอยู่ในโลก มีใช้ในโลก อยู่เหนือโลก
จิตปุถุชนกิเลสหนา อยู่ในโลก แต่ใต้โลก (แบกโลกไว้)
จิตปุถุชนกิเลสปานกลาง อยู่ในโลกระดับเดียวกัน
จิตปุถุชนกิเลสเบาบาง หมั่นฝึกใจให้ว่าง สว่าง สงบ
จักต้องดำเนินไปเหนือโลกและพ้นโลกไม่ต้องกลับมาอีก
(ความคิดเห็นส่วนตัว)


วันพุธที่ 22 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

97: ตำนานธารพระกรแก้ว ของสมเด็จพระสังฆราชไก่เถื่อน

ตำนานธารพระกรแก้ว ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน
และการบังเกิดแห่งธารพระกรแก้ว และผ้าบังสกุล
พระครูสิทธิสังวร (วีระ)รวบรวม เรียบเรียง

ครั้งหนึ่ง พระบรมศาสดา เสด็จอยู่ในสำนักอุรุเวลกัสสปะ เพื่อคลายทิฏฐิ ครั้งนั้นได้มีบุรุษ นำเอาศพของนางปุณณะทาสีมาทิ้งไว้ที่อามสุสาน ป่าช้าผีดิบ ในป่าอุรุเวลา เสนานิคม ครั้งนั้น พระบรมศาสดาทรงดำริที่จะ ทำผ้าสังฆาฏิ ลำดับนั้น ท้าวสักกะเทวราช ทรงทราบความดำริ ใน พระทัย ของพระผู้มีพระภาคเจ้า ด้วยพระทัย ของพระองค์แล้วจึงทรงนำไม้ธาร พระกรไผ่ยอดตาล จากดงไผ่ยอดตาล ออกมาจากป่าใกล้สำนักอุรุเวล- กัสสปแล้วได้ทูลพระบรมศาสดาว่า พระพุทธเจ้าข้า ข้าพระองค์ขอถวายไม้ ธารพระกรแก้ว ไผ่ยอดตาลนี้ แด่พระผู้มีพระภาคเจ้าเพื่อใช้พิจารณาผ้า มหาบังสุกุลพระบรมศาสดาได้ไม้ธารพระกรแล้ว ทรงเสด็จไปยังอามสุสานป่าช้าผีดิบ อันเป็นที่ทิ้งศพนางปุณณะทาสี เป็นเวลา ๗ วันแล้วที่ศพนางปุณณะทาสีอยู่ในอามสุสาน ป่าช้าผีดิบนี้ ศพนั้นเน่าแฟะแล้ว คลาคล่ำไปด้วยหมู่หนอน ส่งกลิ่นเหม็นตลบ เมื่อพระบรมศาสดาถึงป่าช้าผีดิบ พระบรมศาสดาทรงเข้าไปประทับยืนใกล้ศพนางปุณณะทาสี พระหัตถ์ซ้ายของพระบรมศาสดา ถือไม้ธารพระกรแก้ว ไผ่ยอดตาลปลายไม้ธารพระกรแก้ว ยืดยาวไปยันศพนางปุณณะทาสี พระหัตถ์ขวาของพระบรมศาสดายื่นไปข้างหน้าทรงพิจารณาอสุภสัญญาแล้วทรงชักผ้ามหาบังสุกุล ขณะนั้นมหาปฐพีได้ไหวถึงน้ำลองแผ่นดิน พระบรมศาสดา ทรงถือเอาผ้า ที่เขาคลุมร่างนางปุณณะทาสี ที่เขาทิ้งแล้ว มาเป็นผ้ามหาบังสุกุล พระบรมศาสดา ทรงสลัดสัตว์เล็กๆ ประมาณหนึ่งตุมพะ แล้วทรงถือเอาผ้ามหาบังสุกุลออกมาจากป่าช้า ทรงทำกิจที่ทำได้ยากแล้ว แต่นั้นมาอามสุสาน ป่าช้าผีดิบ ป่าอุรุเวลาเสนานิคม ก็ไม่มีผู้ใดนำเอา ซากศพไปทิ้งอีก ด้วยเหล่าเทวดา และเหล่านาคปิดบัง คุ้มครองสถานที่นี้ไว้ เพราะไม่สมควรที่จะทิ้งซากศพใครอีก เนื่องจากเป็นภูมิสถานมงคล อันสมควรแก่ พระศาสดาเท่านั้น บรรดาวิญญาณ ที่อยู่ในป่าช้าผีดิบ ทั้งปวง เมื่อพระศาสดา ทรงพิจารณา ผ้ามหาบังสุกุลแล้ว ต่างก็พากันไปจุติในสุคติภูมิกันทั้งสิ้น

ภาพธารพระกรแก้ว (ไม้เท้าพระพุทธเจ้า)
ณ พิพิธภัณฑ์กรรมฐาน สมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน วัดพลับ

ตำนานธารพระกรของ สมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) วัดราชสิทธาราม ราชวรวิหาร
พระครูสิทธิสังวร (วีระ ) รวบรวม เรียบเรียง

ตำนานธารพระกร ของสมเด็จพระสังฆราช (สุก ไก่เถื่อน) สืบทอดมาแต่องค์ต้น กรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ ฝ่ายเถรวาทซึ่งถือตามคติที่พระอรหันต์พุทธสาวก ที่ได้วางหลักพระธรรมวินัย และธรรมปฏิบัติเป็นแบบแผนไว้ เมื่อครั้งปฐมสังคายนา และนับถือแพร่หลายในประเทศ ไทย พม่า ลังกา ลาว และกัมพูชา คือพระราหุลเถรเจ้า นับเป็นบริโภคเจดีย์ ของสำคัญทางพระพุทธศาสนา ฝ่ายหินยาน แบบเถรวาทที่สืบทอดผ่านยุค ผ่านสมัย มาหลายยุคตั้งแต่ยุดพุทธกาล มาลังกาทวีป มายุคศรีทวารวดีมาสู่ยุค สุโขทัย ยุคอยุธยา และมาถึงยุครัตนโกสินทร์

ข้าพเจ้าเห็นว่าถ้าไม่พิมพ์ตำนาน ไม้ธารพระกร ไผ่ยอดตาลออกไป คุณค่าทางประวัติศาสตร์ของพระพุทธศาสนาก็จะเสื่อมศูนย์ไป และหายไปจากความทรงจำในที่สุด ตำนานธารพระกรของสมเด็จพระสังฆราช (สุกไก่เถื่อน) สืบทอดมาจากพระราหุลเถรเจ้า องค์ต้นกรรมฐานมัชฌิมา แบบลำดับ แบบหินยานฝ่ายเถรวาท
ภาพธารพระกร ของสมเด็จพระสังฆราช ไก่เถื่อน
และธารพระกร คู่พระบารมี คู่พระกรรมฐาน เกิดแก่ท่านพระราหุลเถรเจ้า

วันจันทร์ที่ 20 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

96: ภาพเก็บตกระหว่างเดินทางกลับแม่สอด

ภาพเก็บตกระหว่างเดินทางกลับแม่สอด

ไฟอำนาจ สั่งให้หยุด!ถ่ายรูปก่อนๆ

ครูบาเจ้าศรีวิชัย พระโพธิสัตว์เจ้า (แยกป่าซาง ลำพูน)

เสากิโล (หลวง:ใหญ่)



พระอาทิตย์ยามแลง บ่ายวันนี้ฝนตกแถวๆเถิน ลำปางด้วยเน๊อ

ทัศนวิสัยเป็นแบบมัวๆคลึ้มๆ ก็เพราะควันไฟไหม้ป่า หรือเผาอ๊อย เป็นสิ่งที่ไม่ประทับใจในฤดูนี้...

95: องค์พระธาตุดอยสุเทพ

เสาร์ที่ 18 ก.พ 55: องค์พระธาตุดอยสุเทพ







ก่อนกลับ ได้นั่งภาวนาถวาย ตรงทางขึ้นด้านทิศเหนือขององค์พระธาตุ ดีครับ

เห็นครูชาติพูดถึงความผูกพันธ์ในสถานที่อันเป็นมงคลนี้ ก็อยากแบ่งปันความรู้สึกและกิจกรรมตามสถานที่ที่ไปทำบุญมา
ซึ่งไม่เหมือนเดิมๆที่เคยไป เช่นทำบุญ ชำระหนี้สงฆ์ ขอขมาฯ บูชาพระธาตุ สรรเสริญพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณ แผ่เมตตา ถ่ายภาพ...


เคยติดตามองค์พ่อแม่ครูอาจารย์ไปสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เนืองๆ ท่านมักจะนำสวด...
บทขอขมาต่อองค์พระพุทธ บทฯกรณีฯ (แด่เทวดา) บทวิรูปักเขฯ (แด่เหล่านาค) บทกรวดน้ำ แผ่เมตตาฯ นั่งสมาธิ ตามแต่เวลาและสถานที่จักอำนวย

ทั้งนี้ต้องตรวจดูว่าเหมาะสมหรือไม่ ท่านจักไม่ให้กระทบกับญาติโยมที่มาทำบุญ เพราะอาจจะเกิดกรรมต่อกัน

ณ พระธาตุดอยสุเทพ:
เมื่อหามุมเหมาะ คนไม่พลุกพล่านได้แล้ว ก็เริ่มเข้าสู่การภาวนาเพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา ธรรมบูชา สังฆบูชา
และเทพเทวาผู้พิทักษ์รักษาฯ ตลอดทั้งขอโมทนาบุญกับท่านทั้งหลายนั้น
--- ผล ---
สภาวะภายนอก(กาย):
พื้นที่นั่งเป็นหินอ่อน เย็นยะเยือก เหมาะแก่การภาวนา ไม่เมื่อย นั่งได้นาน
เสียงคนพูด เดินกันไปมา ได้ยินแต่ไม่รำคาญกัน
สภาวะภายใน(จิต):
สงบ ปลอดโปร่ง คล่องแคล่ว (ไปกราบที่ไหนก็ไปได้รวดเร็ว)

สำหรับในแง่ของการพิจารณาสภาวธรรมในเชียงใหม่ และระหว่างการเดินทาง
ก็ได้พบ และเข้าใจคำสั่งสอนขององค์พ่อแม่ครูอาจารย์ได้แจ่มแจ้งมากขึ้นว่า


ทำไม?? ผู้ที่ลงนรกนั้นเทียบได้กับขนโค ส่วนผู้ที่จักขึ้นสวรรค์นั้นเทียบได้กับเขาโค

สุดท้าย...ได้รับรู้เรื่องราวน่าอัศจรรย์ของญาติธรรมท่านหนึ่ง (มีญาณพิเศษ) ที่พึ่งได้รับ
และสัมผัสในพระพุทธานุภาพของพระพุทธปฐวีธาตุแห่งองค์พ่อแม่ครูอาจารย์
ทั้งจากเทพนิมิต จากการภาวนา พระพุทธปฐวีธาตุขยับได้ ขยายได้ และขอพรด้านการค้าขายได้ ฯลฯ
ปล: วัตถุมงคลอื่นที่ว่าดีและแรงก็มีมาก แต่ไม่ขนาดนี้

จนอุทานออกไปว่า "ไม่ต้องหาวัตถุมงคลที่ไหนอีกแล้ว...(ในโลกนี้)"
พร้อมกับสงสัยว่า "องค์ท่านคือผู้ใดหนอ!?"

และขอร่วมทำบุญกับองค์ท่านครับ มขอโมทนาบุญกับท่านผู้นี้ด้วยทุกประการเด๊อ หึหึ

94: ต้นขนุนพระนางจามเทวีทรงปลูก

ต้นขนุนพระนางจามเทวีทรงปลูก องค์พระธาตุดอยสุเทพ



พระประธานในพิพิธภัณฑ์และวิหาร องค์พระธาตุดอยสุเทพ


ในพิพิธภัณฑ์


และวิหาร

93: ศรัทธาวัดพระธาตุดอยสุเทพ

4. เสาร์ที่ 18 ก.พ 55: ศรัทธาวัดพระธาตุดอยสุเทพ




ค่าถ่ายรูปนางแบบน้อย ตามจิตศรัทธา(หรือซาวบาทเจ๊า)

ความเหมือน

ที่แตกต่าง...

92: พระธาตุหริภุณไชย

3. ศุกร์ที่ 17 ก.พ 55: พระธาตุหริภุณไชย วัดพระธาตุหริภุณไชย


พระประธานในวิหารด้านหน้าองค์พระธาตุ

พระประธานในวิหารด้านข้างองค์พระธาตุ



องค์พระธาตุหริภุณไชย จ.ลำพูน :
มีตำนานเกี่ยงข้องกับสมเด็จพระองค์ปัจจุบันทรงฉันสมอ (บักส้มมอ) ณ ที่แห่งนี้

91: พระพุทธรูปทองคำอายุ 900 ปี

3. ศุกร์ที่ 17 ก.พ 55: พระพุทธรูปทองคำอายุ 900 ปี วัดพระธาตุหริภุณไชย


เปิดเฉพาะโอกาสพิเศษและพิธีสังฆกรรม





น่าจะเป็นศิลปเชียงแสน สมบูรณ์ งดงาม อ่อนช้อยมาก

90: พระธาตุลำปางหลวง

2. ศุกร์ที่ 17 ก.พ 55: พระธาตุลำปางหลวง วัดพระธาตุลำปางหลวง

พระเจ้าล้านทอง องค์พระประธาน






ท่านชัยวุฒิ สส.ตาก (คนแม่สอด) และอดีต รมต.กับภรรยา

ผมมาวัดนี้บ่อยมากจึงไม่ค่อยได้เก็บภาพมากเท่าไหร่ และไม่มีเวลาเข้าไปกราบพระแก้วมรกตและชมพิพิธภัณฑ์
ไว้จะหาภาพเก่ามาเสริมให้ครับ