วันจันทร์ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2556

260: ทำบุญวันหยุดที่วัดหนองน้ำเขียว

วัดหนองน้ำเขียว
บ้านหนองน้ำเขียว หมู่ 5 ตำบลแม่กุ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก


หลวงพ่อสุจินต์ สุจิณโณ เจ้าอาวาสวัดหนองน้ำเขียว

ปกติวันหยุดพักผ่อน นอกจากจะพักผ่อนตามชื่อวันหยุดแล้ว ก็จะหากิจกรรมต่างๆในรูปลักษณ์เดียวกัน ที่ได้พักผ่อนทั้งทางกาย ทางใจ ได้สะสมบุญไปในตัว นั่นก็คือ...การออกแสวงบุญ และในวันอาทิตย์ที่ 1 ก.ย. 56 ที่ผ่านมา ก็ได้มีโอกาสเดินทางไปทำบุญถวายสังฆทานและถวายภัตตาหารยังวัดแห่งหนึ่งที่อาจเรียกได้ว่าห่างไกลความเจริญพอประมาณ

การเดินทางถ้านับจากตัวเมืองแม่สอดไปทาง อ.พบพระ ประมาณสิบกว่าโล แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าไปยังหมู่บ้านปูเตอร์และหมู่บ้านกระเหรี่ยงอื่นๆอีกประมาณสิบกว่าโล ถนนก็มีครบทั้งทางดิน ลูกรัง ลาดยาง ลาดปูน 
 เกือบตลอดเส้นทางต้องคอยหลบหลุม ร่อง น้ำเซาะ ถือว่าเป็นการฝึกทักษะการขับรถ ผนวกกับการฝึกสติได้อย่างดีเยี่ยม สองข้างทางก็จะมีไร่ข้าวโพด ทุ่งนา สลับทิวภูเขาไปเรื่อยๆจนเริ่มจะเหนื่อยก็จะถึงทางเข้าวัดกันพอดี









วัดหนองน้ำเขียวตั้งอยู่ในหุบเขา แถบๆหมู่บ้านของชนกระเหรี่ยง มีหลวงพ่อสุจินต์ สุจิณโณ (ท่านเป็นศิษย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล) เป็นเจ้าอาวาส ปีนี้มีพระจำพรรษาทั้งหมด 3 รูป



พอไปถึง หลวงพ่อน่าจะพึ่งออกจากการเดินจงกรม และท่านก็ลงมาสนทนาธรรม โดยธรรมส่วนใหญ่ของหลวงพ่อท่านก็น้อมนำมาจากคำสอนของครูบาอาจารย์ โดยเน้นที่การฝึกจิต* ตามถ้อยธรรมข้างล่าง


* ปล่อยวางทั้งอดีต อนาคต และปัจจุบัน
อยู่กับความไม่มีไม่เป็น ว่าง สว่าง บริสุทธิ์
หยุดการปรุงแต่ง หยุดการแสวงหา หยุดกิริยาจิต 

ไม่มีอะไรเลย ไม่ยึดถืออะไรสักอย่าง

พระอริยเจ้ามีจิตไม่ส่งออกนอก จิตไม่หวั่นไหว จิตไม่กระเพื่อม
มีสติอยู่อย่างสมบูรณ์เป็นวิหารธรรม (
เป็นเครื่องอยู่)

(เรื่องของการ "พลิกจิต" ช่วงสุดท้ายนี้ ท่านว่าบุคคลนั้นๆต้องเคย"ฝึก"มาก่อน จึงจะทำได้จริง)

พระราชวุฒาจารย์หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์

ท่านเรียกว่า วิธีตกกระไดพลอยโจน หลวงปู่มั่นบอกว่า "อรหันต์จ้อย" หรือ "อรหันต์ในปากเสือ" ทำครั้งละ 5 นาที หรือ 10 นาทีเป็นอย่างมาก นอกเหนือจากการนั่งเจริญภาวนาที่ต้องทำเป็นประจำ ผู้ที่ทำได้ก็เหมือนได้สัมผัสอารมณ์ของพระนิพพาน แต่เป็นนิพพานชั่วประเดี๋ยว แตกต่างจากพระอรหันต์ที่ท่านมีสมบูรณ์ ถือเป็นการฝึก "สมมติให้เป็นวิมุตติแล้วปล่อยวางวิมุตติ" 

ในตอนท้ายท่านเมตตาสอนว่า "การภาวนา เป็นของง่ายสำหรับผู้ปฏิบัติ เป็นของยากสำหรับผู้ไม่ปฏิบัติ" สาธุๆๆ

พอเวลาสมควรแก่ภัตตาหารแล้วก็ได้น้อมถวายสังฆทาน ภัตตาหาร และปัจจัย จากนั้นกราบหลวงพ่อเพื่อลากลับ และขออนุญาตขึ้นไปสักการะพระธาตุเจดีย์ที่อยู่ด้านบนหลังวัด







การขึ้นไปเพื่อสักการพระเจดีย์ก็มีให้ตื่นเต้นนิดหน่อย เพราะหากรถติดหล่มติดโคลนแล้วถนนก็ลื่น ก็อาจจะลำบากหาตัวช่วย โชคดีที่พอมีกำลังของ 4WD จึงช่วยให้ผ่านพ้นอุปสรรคไปได้



พระเจดีย์วัดหนองน้ำเขียว


สร้างขึ้นเพื่อประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ พระบรมธาตุพระปัจเจกพุทธเจ้า พระธาตุของพระอรหันต์ในสมัยพุทธกาล และพระธาตุของพ่อแม่ครูอาจารย์ในยุคกึ่งพุทธกาลถึงปัจจุบัน โดยได้กำหนดให้เป็นเขตพระอุโบสถและมีวิสุงคามสีมาด้วย







เมื่อสักการะพระธาตุเจดีย์เสร็จแล้ว ก็ได้หาที่เหมาะแก่การนั่งเจริญจิตภาวนาน้อมถวายบูชาคุณองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระปัจเจกพุทธเจ้า พระธรรมเจ้า และพระอรหันตสาวก ก็ได้ความสุขสงบสมความมุ่งมาตรปรารถนา จึงได้น้อมกราบนมัสการลากลับบ้านโดยสวัสดิภาพ